การติดตามะนาว

การติดตา (T-budding) มะนาว เป็นวิธีขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศที่ได้ผลดีมาก ใช้สำหรับผลิตต้นพันธุ์คุณภาพสูง โดยการนำ "ตาพันธุ์ดี" ไปติดบนต้นตอที่แข็งแรง เช่น ตอส้มซ่า หรือมะนาวตอพื้นเมือง หากมีมะนาวที่ปลูกแล้วไม่ตรงสายพันธุ์ก็ยังสามารถนำตาพันธุ์ดีไปติดในแปลงได้เช่นกัน

ข้อดีของการติดตามะนาว

• ได้ต้นพันธุ์ตรงตามสายพันธุ์แน่นอน

• ต้นแข็งแรง โตเร็ว และต้านทานโรค (ขึ้นอยู่กับต้นตอ)

• ออกดอกติดผลเร็วกว่าเพาะเมล็ด

• เหมาะกับการขยายพันธุ์จำนวนมากในระยะเวลาสั้น

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

• มีดติดตาคมและสะอาด

• เชือกฟางบาง / เทปพันกิ่ง (พลาสติกใสแบบยืดได้)

• ต้นตอมะนาวอายุ 6-12 เดือน (เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณดินสอ)

• กิ่งพันธุ์ดี (กิ่งแก่ที่มีตาสมบูรณ์)

• พลาสติกคลุมฝน (ถ้าติดตาในฤดูฝน)

ขั้นตอนการติดตามะนาว (T-budding)

1. เตรียมต้นตอ

• ใช้ต้นตอที่อายุ 6-12 เดือน

• กรีดเปลือกต้นตอเป็นรูปตัว T (สูงจากพื้นดิน 10-15 ซม.)

• ยกเปลือกขึ้นเบา ๆ ให้เป็นช่องสำหรับสอดตา

2. เตรียมตาพันธุ์ดี

• เลือกกิ่งแก่ที่มีตาสมบูรณ์ (ไม่แก่เกินไป ไม่เป็นยอดอ่อน)

• ใช้มีดเฉือนเปลือกพร้อมเนื้อนิดหน่อยให้ติดตา 1 ตา

• ขนาดตาควรยาวประมาณ 2-3 ซม. ตัดทั้งด้านบนและล่างของตา

3. สอดตาเข้าช่องต้นตอ

• ค่อย ๆ สอดตาเข้าใต้เปลือกตัว T ที่กรีดไว้

• ให้ตาแนบสนิทกับต้นตอมากที่สุด

4. พันยึดด้วยเทปพันกิ่ง

• พันเทปจากล่างขึ้นบนแบบแน่นแต่ไม่แน่นเกิน

• เว้นช่องตรงบริเวณตา อย่าพันทับตา

5. ดูแลหลังติดตา

• ประมาณ 10-14 วัน ตาจะเริ่มติด ถ้าตายังเขียวคือ "ติด"

• หากตาแห้งดำ แสดงว่า "ไม่ติด" ให้ติดใหม่

• เมื่อตาติดดีแล้ว 3-4 สัปดาห์ ตัดยอดต้นตอเหนือรอยตา ออก เพื่อให้ตาเจริญกลายเป็นยอดใหม่

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับติดตามะนาว

• ฤดูฝนปลาย ๆ หรือฤดูหนาวต้น ๆ (สิงหาคม–มกราคม)

• ควรเป็นช่วงที่ต้นตอยังมีน้ำหล่อเลี้ยงใต้เปลือก (เปลือกปอกง่าย)

เคล็ดลับเพิ่มเติม

• หากติดตาในฤดูฝน ควรคลุมพลาสติกกันฝน

• ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาทารอบรอยแผลกันเชื้อโรค

• ใช้พันธุ์มะนาวแป้นยอดนิยม เช่น แป้นรำไพ แป้นรำไพ2 แป้นดกพิเศษ แป้น กวก.พิจิตร2 ฯลฯ

28 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร