น้ำหมักปลาร้า
น้ำหมักปลาร้า เป็นน้ำหมักชีวภาพที่ให้ประโยชน์สูงต่อพืช เพราะมีธาตุอาหารหลักและธาตุรองครบถ้วน โดยเฉพาะ ไนโตรเจน และ จุลินทรีย์ย่อยสลายที่ช่วยเร่งการเจริญเติบโต เหมาะสำหรับใช้กับพืชผัก ไม้ผล รวมถึงมะนาวในช่วงเร่งใบและเร่งต้น
ประโยชน์ของน้ำหมักปลาร้า
ประโยชน์ | รายละเอียด |
---|---|
เพิ่มจุลินทรีย์ในดิน | ย่อยสลายอินทรียวัตถุในดินให้เป็นธาตุอาหารพืช |
กระตุ้นการแตกใบ | มีกรดอะมิโนและไนโตรเจนธรรมชาติ |
เร่งดอกติดผล | มีแร่ธาตุรอง-เสริมครบ เช่น ฟอสฟอรัส, โบรอน |
ฟื้นต้นโทรม | ช่วยสร้างเซลล์ใหม่ เสริมภูมิคุ้มกันพืช |
ใช้ร่วมกับน้ำหมักอื่นได้ | เช่น น้ำหมักกล้วย, น้ำหมักหน่อไม้ เพื่อเสริมฤทธิ์กัน |
สูตรน้ำหมักปลาร้า (แบบง่าย)
วัสดุ
• ปลาร้าบดละเอียด 1 กิโลกรัม
• กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม (หรือใช้น้ำตาลทรายแดง 1/2 กก.)
• น้ำเปล่า 10 ลิตร
• น้ำหมัก EM หรือน้ำหมักหน่อไม้ 1 แก้ว (เพื่อเร่งจุลินทรีย์)
วิธีทำ
1. ผสมทุกอย่างลงถังหมักที่มีฝาปิด
2. คนให้เข้ากัน แล้วปิดฝาหลวม ๆ
3. ตั้งไว้ในร่ม 7–15 วัน (เปิดฝาคนทุก 2–3 วัน)
4. เมื่อมีกลิ่นหอมเปรี้ยวอมคาว แสดงว่าใช้ได้
วิธีใช้ในสวนมะนาว
จุดประสงค์ | อัตราผสมน้ำ | ความถี่ |
---|---|---|
รดโคนต้น | 100–200 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร | ทุก 7–15 วัน |
ฉีดพ่นทางใบ | <50 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร/td> | ทุก 10–15 วัน |
ฟื้นฟูต้นโทรม | 200 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร | สัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง |
ควรใช้ตอนเย็น/เช้าตรู่ และ งดพ่นช่วงฝนตก เพื่อให้จุลินทรีย์ทำงานได้เต็มที่ |
ข้อควรระวัง
• ห้ามใช้เข้มข้นเกินไป อาจทำให้ใบไหม้
• ถ้าหมักนานเกิน 1 เดือน ควรเก็บในที่เย็นหรือแช่ตู้เย็น เพื่อป้องกันกลิ่นแรง
• ห้ามใช้กับพืชอายุอ่อนเกิน 15 วันหลังปลูก
28 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร