รากขาดอากาศ

รากขาดอากาศ (Root Suffocation หรือ Root Asphyxiation) คือ ภาวะที่รากพืชอยู่ในดินที่อิ่มน้ำหรือแน่นทึบเกินไป ทำให้ไม่มีออกซิเจนเพียงพอ ส่งผลให้รากเสียหาย ไม่สามารถดูดน้ำและธาตุอาหารได้ตามปกติ เป็นปัญหาพบบ่อยในฤดูฝน โดยเฉพาะกับพืชที่ไม่ทนน้ำ เช่น มะนาว

อาการของพืชเมื่อรากขาดอากาศ

อาการ รายละเอียด
ใบซีด เหลือง ร่วงง่าย โดยเฉพาะใบล่างหรือใบแก่ก่อน
ใบอ่อนเหี่ยวทั้งที่ดินชื้น เพราะรากดูดน้ำไม่ได้ ไม่ใช่เพราะขาดน้ำ
ไม่แตกยอดใหม่ / หยุดโต รากทำงานผิดปกติ ไม่มีแรงดันน้ำขึ้นต้น
ดอกและผลร่วง พืชตัดภาระการใช้น้ำและอาหารส่วนเกิน
รากเปื่อย มีกลิ่นเหม็น สังเกตได้หากขุดดูที่โคนต้น หรือถอนรากขึ้นมา
พืชโทรมรวดเร็ว ต้นอาจตายภายในไม่กี่วันหากยังไม่แก้ไข

วิธีแก้ไขเมื่อรากขาดอากาศ

แนวทาง รายละเอียด
พรวนดินรอบโคน เปิดหน้าดินลึก 5–10 ซม. เพื่อระบายอากาศ
งดให้น้ำทันที จนกว่าดินจะแห้ง หรือชื้นแต่ไม่แฉะ
ตัดแต่งใบ/กิ่งเพื่อลดการคายน้ำ ลดภาระราก
ฉีดพ่นธาตุอาหารทางใบ เช่น แมกนีเซียม, สังกะสี, แคลเซียมโบรอน
ใช้สารกระตุ้นราก เช่น สาหร่ายทะเล, ฮอร์โมนเร่งราก, อะมิโนแอซิด
ใช้ถุงปุ๋ยคลุมดินรอบโคน กันฝนตกลงโดยตรง หากฝนยังไม่หยุด

การป้องกันระยะยาว

วิธี ประโยชน์
ปลูกบนโคกหรือวงบ่อ ยกระดับต้นไม้ให้พ้นน้ำขัง
วางระบบระบายน้ำดี เช่น ทำร่องน้ำระหว่างแถวปลูก
ปลูกพืชคลุมดิน ช่วยซับน้ำและระบายความชื้น
ดัดแปลงวัสดุปลูก เช่น ใส่ทรายหยาบ แกลบดิบ ปรับดินให้โปร่งขึ้น

สูตรฟื้นฟูต้นไม้ที่รากขาดอากาศ

1. สูตรฉีดพ่นทางใบ (ช่วยให้พืชยังรับอาหารได้ขณะรากยังไม่ฟื้น) ผสมในน้ำ 20 ลิตร

• สาหร่ายทะเล (Seaweed extract) = 30–50 ซีซี

• แคลเซียม-โบรอน (Ca-B) = 20 ซีซี

• แมกนีเซียม + ธาตุรอง/เสริม (Mg, Zn, Mn) = 20–30 ซีซี

• อะมิโนแอซิด (กรดอะมิโนจากพืชหรือปลา) = 20 ซีซี

• สารจับใบ (เช่น สารธรรมชาติหรือ NPAA) = 5 ซีซี

• ฉีดพ่นช่วงเย็น ทุก 5–7 วัน ติดต่อกัน 2–3 ครั้ง

2. สูตรราดดินเมื่อดินเริ่มแห้ง (กระตุ้นรากใหม่) ผสมในน้ำ 20 ลิตร

• สาหร่ายทะเลเข้มข้น = 50 ซีซี

• ฮอร์โมนเร่งราก (IBA หรือ NAA) = 5–10 ซีซี

• จุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายรากเน่า (เช่น ไตรโคเดอร์มา หรือบาซิลลัส) = 50–100 กรัม

• กากน้ำตาล = 30–50 ซีซี (เป็นอาหารจุลินทรีย์)

• ราดรอบโคนต้น 1–2 ครั้ง ห่างกัน 7–10 วัน

3. การจัดการร่วมเพื่อให้ฟื้นเร็วขึ้น

แนวทาง เหตุผล
ตัดแต่งใบ/กิ่งบางส่วน ลดการคายน้ำ ลดภาระราก
พรวนดินรอบโคน เพิ่มการระบายอากาศในดิน
คลุมโคนด้วยฟาง/เศษหญ้า กันดินกระเด็น + คุมความชื้น
หยุดใส่ปุ๋ยเคมี โดยเฉพาะปุ๋ยไนโตรเจน จนกว่ารากจะแข็งแรง

หมายเหตุ

• หลีกเลี่ยงการให้น้ำเพิ่มระหว่างฟื้นฟู

• ถ้าฝนตกซ้ำ ให้ใช้พลาสติกคลุมรอบโคนต้นชั่วคราว

• หากต้นยังไม่ฟื้นใน 15–20 วัน ควรตรวจรากลึก อาจมีรากเน่าหนัก ต้องตัดแต่งราก

41 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร