การปลูกมะนาวแบบยกร่อง
การปลูกมะนาวแบบยกร่อง เป็นวิธีที่นิยมมากในพื้นที่ลุ่มหรือที่มีน้ำท่วมขังง่าย เช่น ภาคกลางของไทย โดยเฉพาะแถบปากน้ำโพ-บางบัวทอง-อยุธยา เพราะช่วยระบายน้ำได้ดี และลดปัญหาโรครากเน่าโคนเน่า
ข้อดีของการปลูกมะนาวแบบยกร่อง
• ดินแห้งเร็วหลังฝนตก ลดปัญหาเชื้อรา
• รากมะนาวไม่แช่น้ำ → ส่งผลให้รากเดินดี
• ควบคุมระดับน้ำได้ง่าย โดยเฉพาะหากมีคันกั้น
• ทำงานในแปลงง่ายแม้ช่วงฝนตก
• เหมาะกับการใช้ระบบน้ำแบบมินิสปริงเกลอร์/น้ำหยด
ลักษณะร่องยกร่องปลูกมะนาวที่แนะนำ
รายการ | ขนาดที่แนะนำ |
---|---|
ความกว้างของร่อง | 1.0–1.2 เมตร |
ความสูงของร่อง | 30–50 ซม. |
ความกว้างของคันร่อง (ที่ปลูกต้น) | 1.5–2.0 เมตร |
ความยาวร่อง | ตามขนาดพื้นที่ |
ระยะระหว่างต้น | 2.5–3.0 เมตร |
ระยะระหว่างแถว | 3.0–3.5 เมตร |
กรณีพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม → ยกร่องสูงมากกว่า 50 ซม. จะช่วยได้มาก |
ขั้นตอนการปลูกมะนาวแบบยกร่อง
1. ไถพรวนปรับหน้าดิน และออกแบบแนวร่อง
• ใช้เชือกขึงแนวร่องตรง ๆ เพื่อให้งานวางระบบน้ำสะดวก
• วางแปลนคูระบายน้ำควบคู่กัน
2. ขุดร่อง – ถมดินยกคันปลูก
• ขุดร่องให้ลึก 40–50 ซม. ดินที่ขุดให้ใช้ถมทำแนวคันร่องปลูกต้น
• ผสมอินทรีย์วัตถุ เช่น ปุ๋ยคอก แกลบดิบ ถ่านแกลบ เพื่อปรับดินให้อุ้มน้ำแต่ไม่อมน้ำ
3. ปลูกต้นมะนาว
• ขุดหลุมลึกประมาณ 30x30 ซม.
• วางต้นมะนาวแล้วกลบดิน โดยให้รอยต่อระหว่างต้นพันธุ์กับตอมองเห็นชัด (ไม่ฝังลึกเกิน)
4. คลุมโคน
• ใช้เศษหญ้าแห้ง ฟางแห้ง หรือใบไม้สับเพื่อรักษาความชื้นที่เหมาะสม
• หลีกเลี่ยงของที่อมน้ำมากในช่วงหน้าฝน
5. ติดตั้งระบบน้ำ
• แนะนำ มินิสปริงเกลอร์ ต้นละ 1 หัว
• หากพื้นที่กว้างมาก อาจใช้ระบบน้ำหยดแบบวงแหวนรอบโคนต้น
เทคนิคเสริมเพิ่มผลผลิต
• เสริมรากมะนาว (ใช้ต้นตออย่างมะนาวป่า/โซ่งทนโรค) ให้ระบบรากแกร่ง
• ใช้จุลินทรีย์ชีวภาพ เช่น ไตรโคเดอร์มา หรือ พีจีพีอาร์ (PGPR) ช่วยให้รากเดินดี
• ใส่ปุ๋ยสูตร 25-7-7 หรือ 21-7-14 สลับกับปุ๋ยอินทรีย์
375 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร