การตกตะกอนของปุ๋ยเคมี
การตกตะกอนของปุ๋ยเคมี เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยเมื่อมีการผสมปุ๋ยหรือสารละลายหลายชนิดเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะในระบบน้ำหยด การฉีดพ่นทางใบ หรือแม้แต่การผสมในถังปุ๋ยเพื่อรดต้นพืช ซึ่ง ทำให้ธาตุอาหารบางชนิดสูญเสียสภาพที่พืชดูดซึมได้ และเกิดเป็นตะกอนขุ่นหรือละลายไม่หมด
สาเหตุที่ทำให้เกิดการตกตะกอน
| สาเหตุหลัก | รายละเอียด | 
|---|---|
| ค่าความเป็นด่าง (pH) ไม่เหมาะสม | เมื่อ pH สูงเกินไป เช่น ดินหรือสารละลายด่าง >7.5 จะทำให้ธาตุเหล็ก แมงกานีส สังกะสี ตกตะกอน | 
| ปฏิกิริยาเคมีระหว่างธาตุ | เช่น แคลเซียม + ฟอสเฟต แคลเซียมฟอสเฟต (ไม่ละลายน้ำ) | 
| ใช้สารในรูปไม่เหมาะสมร่วมกัน | เช่น แคลเซียมไนเตรต กับปุ๋ยฟอสเฟต จะจับกันและตกตะกอนทันที | 
| ผสมผิดลำดับ / ใช้ความเข้มข้นสูงเกิน | ทำให้สารละลายไม่สามารถคงตัวอยู่ในรูปที่ละลายน้ำได้ | 
ตัวอย่างปฏิกิริยาตกตะกอนที่พบบ่อย
| การผสม | ผลลัพธ์ | 
|---|---|
| แคลเซียมไนเตรต + MAP หรือ MKP | ตกตะกอนแคลเซียมฟอสเฟต | 
| เหล็ก (FeSO₄) + น้ำด่าง | ตกตะกอนเฟอริกไฮดรอกไซด์ | 
| แคลเซียม + ซัลเฟต (เช่น แมกนีเซียมซัลเฟต) | ตกตะกอนแคลเซียมซัลเฟต (ยิปซัม) | 
แนวทางป้องกัน
| วิธีการ | รายละเอียด | 
|---|---|
| แยกแทงก์/ถังผสมปุ๋ย | ไม่ควรผสมแคลเซียมกับฟอสเฟต หรือซัลเฟตในถังเดียวกัน | 
| ปรับ pH ของน้ำให้อยู่ในช่วง 5.5–6.5 | โดยใช้กรดอินทรีย์ เช่น กรดซิตริก | 
| ใช้ปุ๋ยในรูปคีเลต | เช่น Fe-EDTA หรือ Zn-EDTA เพื่อป้องกันการตกตะกอน | 
| ผสมตามลำดับ | เติมธาตุหลักก่อน แล้วค่อยเติมจุลธาตุ หรือสารเสริม | 
| ทำการทดลองก่อน | ผสมเล็กน้อยเพื่อดูว่าเกิดตะกอนหรือไม่ก่อนใช้จริง | 
ทดสอบง่าย ๆ ว่ามีการตกตะกอนหรือไม่
1. ผสมสารในปริมาณเล็กน้อยในขวดใส
2. เขย่าแล้ววางทิ้งไว้ 10–20 นาที
3. หากมีตะกอนขุ่นขาว หรือละลายไม่หมด = ห้ามใช้ร่วมกัน
13.3k @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร
