“คลอโรฟิลล์ที่ใบมะนาว” เป็นเรื่องสำคัญและน่าสนใจมาก เพราะคลอโรฟิลล์คือหัวใจของการสังเคราะห์แสง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของพลังงานทั้งหมดในต้นมะนาว มาดูแบบเจาะลึกกันครับ

เจาะลึกคลอโรฟิลล์ที่ใบมะนาว

1. ความหมายของคลอโรฟิลล์

คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) คือเม็ดสีสีเขียวที่อยู่ใน คลอโรพลาสต์ (chloroplast) ภายในเซลล์ใบ มีหน้าที่หลักในการ ดูดซับพลังงานแสงจากดวงอาทิตย์ เพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสง (photosynthesis) เปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำให้เป็นน้ำตาลและออกซิเจน

2. ชนิดของคลอโรฟิลล์ในใบมะนาว

ในพืชใบเขียวทั่วไป (รวมถึงมะนาว) พบคลอโรฟิลล์ 2 ชนิดหลัก คือคลอโรฟิลล์ a ดูดซับแสงในช่วง สีน้ำเงิน-แดง และให้สีเขียวเข้ม ส่วนคลอโรฟิลล์ b ดูดซับแสงในช่วง สีน้ำเงิน-ส้มแดง ทำหน้าที่เสริมการทำงานของชนิด a เมื่อคลอโรฟิลล์ a : b ในใบมะนาวมีอัตราส่วนประมาณ 3 : 1 ในช่วงที่ใบสมบูรณ์ที่สุด

3. ปัจจัยที่มีผลต่อระดับคลอโรฟิลล์ในใบมะนาว

4. บทบาทของคลอโรฟิลล์ในระบบการผลิตมะนาว

• เพิ่มประสิทธิภาพการสังเคราะห์แสง ผลผลิตสูง ใบเขียวเข้ม

• กระตุ้นการสร้างน้ำตาล ช่วยให้ผลมะนาวมีรสเปรี้ยวและกลิ่นหอม

• ส่งผลต่อ ขนาดผล-จำนวนผล-ความทนทานของต้น

5. การตรวจสอบระดับคลอโรฟิลล์ในสวนมะนาว

สามารถใช้เครื่องมือช่วยได้ เช่น เครื่องวัด SPAD meter วัดค่าความเขียวของใบ (หน่วย SPAD) ค่าปกติของใบมะนาวสุขภาพดีอยู่ที่ 45-55 SPAD ต่ำกว่า 40 คือขาดธาตุไนโตรเจนหรือแมกนีเซียม การสังเกตด้วยตาเปล่า ถ้าใบซีด เหลืองจากโคนใบ บ่งชี้ว่าคลอโรฟิลล์ลดลง

6. เทคนิคเพิ่มคลอโรฟิลล์ในใบมะนาว

• ให้ธาตุไนโตรเจน (N) และแมกนีเซียม (Mg) อย่างสมดุล

• ฉีดพ่นธาตุรอง-ธาตุเสริม เช่น เหล็ก (Fe), สังกะสี (Zn) ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดสี

• พ่นสารสกัดสาหร่ายหรือกรดอะมิโนธรรมชาติ เพิ่มความเขียวและความสดของใบ

• จัดการน้ำและแสงให้เหมาะสม ไม่ให้ขาดน้ำหรือแดดจัดเกินไป

• กำจัดโรคและแมลงใบ โดยเฉพาะหนอนชอนใบและแคงเกอร์ เพราะทำลายพื้นที่สังเคราะห์แสงโดยตรง

7. ข้อสังเกตเชิงภาคสนาม

• ใบมะนาวที่เขียวมันและหนา บ่งชี้ว่ามีคลอโรฟิลล์สูง ผลผลิตดี

• ใบเหลืองบาง หมายถึงคลอโรฟิลล์ต่ำ ควรตรวจธาตุ N และ Mg

• ใบใหม่ที่แตกช่วงอากาศเย็นมักมีคลอโรฟิลล์เข้มกว่าใบที่แตกในฤดูร้อน

38 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร