ดินมีลมหายใจ

คำว่า “ดินมีลมหายใจ” หมายถึง ดินที่มีชีวิต หรือดินที่ยังคง การแลกเปลี่ยนอากาศ น้ำ และกิจกรรมของจุลินทรีย์ อยู่ตลอดเวลา คล้ายกับสิ่งมีชีวิตที่หายใจนั่นเองครับ

ทำไมถึงเรียกว่า "ดินมีลมหายใจ"

1. การแลกเปลี่ยนก๊าซ

• รากพืชต้องการออกซิเจน (O₂) เพื่อหายใจ และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ออกมา

• จุลินทรีย์ในดินก็ทำหน้าที่คล้ายกัน ใช้ออกซิเจน สร้างพลังงาน และปล่อยก๊าซ

• ถ้าดินโปร่งร่วน จะมีช่องว่างให้อากาศหมุนเวียน ดินจึง "หายใจ" ได้

2. การเคลื่อนไหวของน้ำและอากาศ

• ดินที่ดีมีรูพรุน 2 แบบ รูพรุนใหญ่ ให้อากาศไหลเวียน และรูพรุนเล็ก อุ้มน้ำให้รากใช้

• เมื่อฝนตก น้ำซึมลงแทนที่อากาศ

• พอแดดออก น้ำระเหย อากาศใหม่ไหลเข้ามาแทน เกิดวงจรหายใจของดิน

3. กิจกรรมชีวภาพ

• ไส้เดือน แมลงดิน เชื้อรา แบคทีเรีย ขุดรู สร้างช่องอากาศ ทำให้ดิน "หายใจคล่อง"

• อินทรียวัตถุถูกย่อยสลาย เกิดก๊าซและสารอาหารหมุนเวียน

ดินที่ไม่มีลมหายใจ

• ดินแน่นทึบ อัดแข็ง อากาศเข้าไม่ถึง

• ดินมีน้ำขัง ช่องว่างในดินเต็มไปด้วยน้ำ รากขาดออกซิเจน → รากเน่า

• จุลินทรีย์ดีตาย เหลือแต่จุลินทรีย์ก่อโรค

• รากมะนาวไม่เติบโต ใบซีด เหี่ยวเฉาง่าย

ทำให้ดินมีลมหายใจ

• ใส่อินทรียวัตถุ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก แกลบ ปุ๋ยพืชสด

• คลุมดิน รักษาความชื้น ลดการอัดแข็ง

• ใช้ปุ๋ยพืชสด/ไถกลบ เพิ่มช่องว่างในดิน

• ใช้ไส้เดือนหรือจุลินทรีย์ช่วยฟื้นดิน

• หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องจักรหนักทับซ้ำ

สรุปสั้น ๆ

ดินที่มีลมหายใจ คือดินร่วนซุย มีอากาศหมุนเวียน มีชีวิต ต้นมะนาวหรือพืชอะไรก็จะรากดี แข็งแรง ผลผลิตสูง

61 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร