สูตรทำแคลเซียมโบรอน

การทำ “แคลเซียม-โบรอน (Ca–B)” แบบธรรมชาติ สำหรับพ่นทางใบหรือราดทางดิน สามารถทำได้ง่าย ใช้วัตถุดิบใกล้ตัว เช่น เปลือกไข่, น้ำส้มสายชู, น้ำมะพร้าวอ่อน หรือหัวปลีกล้วย ซึ่งให้ผลดีในการ เสริมผนังเซลล์–ช่วยการผสมเกสร–ลดผลร่วง–ป้องกันปลายผลเน่า

สูตรที่ 1: แคลเซียมโบรอนจากเปลือกไข่ + น้ำมะพร้าว

วัตถุดิบ ปริมาณ
เปลือกไข่แห้งป่น 10 ฟอง
น้ำส้มสายชู 5% (ธรรมดา) 500 มล.
น้ำมะพร้าวอ่อน (หรือน้ำมะพร้าวบูด) 1 ลิตร
น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ
ภาชนะพลาสติก (เปิดฝาหลวม ๆ) 1 ใบ

วิธีทำ:

• ผสม เปลือกไข่ป่น + น้ำส้มสายชู → จะเกิดฟอง (ปล่อยฟองจนหยุด)

• เติม น้ำมะพร้าว + น้ำตาลทรายแดง คนให้เข้ากัน

• หมักไว้ 5–7 วัน (เปิดฝาหลวม ๆ)

• กรองเก็บใส่ขวด ใช้พ่นได้เลย

อัตราการใช้:

• พ่นทางใบ: 30–50 ซีซี / น้ำ 20 ลิตร ทุก 7–10 วัน

• ราดโคน: 100 ซีซี / น้ำ 10 ลิตร / ต้น

สูตรที่ 2: แคลเซียมโบรอนจากเปลือกไข่ + หัวปลีกล้วย

วัตถุดิบ ปริมาณ
เปลือกไข่บดแห้ง 10 ฟอง
น้ำส้มสายชู 5% 500 มล.
หัวปลีกล้วยสับละเอียด 500 กรัม
กากน้ำตาล / น้ำตาลทรายแดง 3–4 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 ลิตร

วิธีทำ:

• หมัก เปลือกไข่ + น้ำส้มสายชู ทิ้งไว้ 2–3 วัน

• ใส่ หัวปลี + น้ำตาล + น้ำเปล่า ลงรวมกันในภาชนะ

• หมักรวม 5–7 วัน (คนทุกวันเล็กน้อย)

• กรองแล้วนำไปใช้

จุดเด่น:

• หัวปลีกล้วยมี “โบรอนธรรมชาติ” สูง

• เปลือกไข่ให้แคลเซียมคาร์บอเนต → ดูดซึมได้ดีเมื่อละลายด้วยน้ำส้มสายชู

ประโยชน์ของแคลเซียม–โบรอน

ธาตุ หน้าที่
แคลเซียม (Ca) สร้างผนังเซลล์ ใบกรอบ แข็งแรง ลดปลายใบไหม้และผลเน่า
โบรอน (B) ช่วยให้เกสรสมบูรณ์ ผสมเกสรดี ลดผลร่วง ต้นตั้งตัวเร็ว

ข้อควรระวังในการใช้

• ใช้ตอนแดดอ่อน เช่น เช้าก่อน 9 โมง หรือเย็นหลัง 5 โมง

• ห้ามผสมกับสารประเภท “น้ำมัน” หรือ “กำมะถัน”

• ไม่ควรพ่นร่วมกับปุ๋ยเคมีเข้มข้น → เสี่ยงใบไหม้

17 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร