การขยายพันธุ์แตนเบียน

การขยายพันธุ์ “แตนเบียน” (เช่น Trichogramma spp., Bracon spp., Cotesia spp. ฯลฯ) เป็นเทคนิคทางชีววิธีที่ช่วยควบคุมแมลงศัตรูพืช โดยเฉพาะพวกที่เป็นระยะไข่หรือตัวอ่อน เช่น หนอนเจาะ หนอนกัดกินใบต่างๆ ในสวนผัก-ผลไม้ รวมถึงมะนาว

ทำความเข้าใจเบื้องต้น

แตนเบียน (Parasitoid wasp) แมลงขนาดเล็กคล้ายมดบิน มักวางไข่ในหรือบนไข่/ตัวอ่อนของแมลงศัตรูพืช ลูกแตนจะฟักออกมาและกินไข่หรือตัวอ่อนของแมลงเป้าหมายจนตาย ไม่เป็นอันตรายต่อคนหรือสัตว์เลี้ยง

วิธีการขยายพันธุ์แตนเบียน (Trichogramma spp.) ด้วยตัวเอง

อุปกรณ์และวัตถุดิบ

1. ไข่เจ้าบ้าน: นิยมใช้ไข่ของแมลงเม่าแป้ง (Corcyra cephalonica) เป็นตัวเจ้าบ้านให้แตนวางไข่

2. แตนเบียนต้นแบบ: ซื้อจากหน่วยงานวิจัย /กรมส่งเสริมฯ /ศูนย์ชีวินทรีย์

3. ภาชนะเลี้ยง: กล่องพลาสติกใส, ขวดโหล หรือกล่องขนาดพอเหมาะ

4. กระดาษรองไข่: กระดาษขาวหรือกล่องไข่แห้ง

5. ผ้าตาข่าย: ใช้ปิดปากกล่องให้ระบายอากาศ

6. ห้องเลี้ยง: ต้องมีความชื้น 60–70%, อุณหภูมิ 25–28°C, ไม่โดนแสงแดด

ขั้นตอนการขยายพันธุ์

1. เตรียมไข่แมลงเม่าแป้ง

• เลี้ยงตัวเต็มวัยของ แมลงเม่าแป้ง เพื่อให้ได้ไข่

• รวบรวมไข่ใหม่วันต่อวัน บนแผ่นกระดาษ

2. ฆ่าเชื้อไข่

• ใช้รังสี UV หรือความร้อนอ่อน ๆ (50–60°C ประมาณ 20–30 นาที) เพื่อทำให้ไข่ไม่ฟักเป็นหนอน

• จุดประสงค์: ให้เป็นแค่ “ที่วางไข่” ของแตน

3. ปล่อยแตนเบียนต้นแบบ

• วางแตนเบียน (10–20 ตัว) พร้อมไข่แมลงเม่าแป้งที่ฆ่าเชื้อ ลงในกล่องเลี้ยง

• แตนจะเริ่มวางไข่ภายใน 24–48 ชม.

4. สังเกตสีไข่

• ไข่ที่ถูกแตนเบียนวางไข่จะเปลี่ยนจากสีขาว สีน้ำตาลเข้มหรือดำ (ภายใน 3 วัน)

• รอจนแตนตัวใหม่เริ่มฟักออก (5–7 วัน)

การเก็บและนำไปใช้

• ตัดแผ่นกระดาษที่มีไข่แตนเปลี่ยนสี (พร้อมฟัก)

• เก็บในซองกระดาษหรือถุงตาข่าย เจาะรูระบายอากาศ

• ใช้ใน 1–2 วัน เพื่อปล่อยในแปลงปลูก (1 ไร่ ใช้ 30,000–50,000 ตัว แล้วแต่พืชและศัตรูพืช)

หมายเหตุ

• ควรปล่อยแต่เช้าหรือเย็น หลีกเลี่ยงแดดจัด

• ปล่อยซ้ำทุก 5–7 วัน หากพบการระบาดต่อเนื่อง

• อย่าใช้สารเคมีฆ่าแมลงร่วมในพื้นที่

9 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร