ดินที่มีฟอสฟอรัสสูง

ดินที่มีฟอสฟอรัส (P) สูงเกินไป เป็นสถานการณ์ที่พบบ่อยในพื้นที่ที่ใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเร่งรากหรือเร่งดอกซ้ำ ๆ เช่น DAP (18-46-0), 12-24-12, 15-30-15 หรือแม้แต่น้ำหมักที่มีขี้ไก่มาก ซึ่งอาจเกิดปัญหาในระยะยาวได้

ปัญหาที่เกิดจาก “ฟอสฟอรัสสูงเกินไป”

1. พืชดูดธาตุรอง–จุลธาตุได้น้อยลง

• โดยเฉพาะ ธาตุเหล็ก (Fe), สังกะสี (Zn) และ แมงกานีส (Mn)

• ส่งผลให้ ยอดอ่อนซีด เหลือง ใบจุด ใบลายเขียวซีด

2. รากพืชชะลอการดูดซึม

• รากฝอยน้อยลง พืชเจริญเติบโตช้าทั้งที่มีปุ๋ยเพียงพอ

3. ความสมดุลของธาตุอาหารเสีย

• ดินเสียสมดุล N–P–K ทำให้ปุ๋ยที่ใส่ภายหลังไม่ค่อยได้ผล

4. สะสมในดินนาน

• ฟอสฟอรัสไม่ค่อยถูกชะล้างออกจากดิน

• สะสมได้นานนับปี จึงต้องจัดการอย่างระมัดระวัง

สัญญาณในพืช (ดูจากอาการใบ)

อาการ สาเหตุ
ยอดอ่อนเหลือง ใบลายซีด ขาดเหล็กจากการถูกรบกวนโดย P
ใบแคระ ขอบใบไหม้ ขาดสังกะสีหรือแมงกานีส
ใบแก่เขียวจัด แต่พืชชะงักงัน ธาตุรองไม่สมดุล
ดอกร่วง ติดผลยาก ระบบรากเสื่อม ไม่สมดุลฮอร์โมน

แนวทางการจัดการ “ดินฟอสฟอรัสสูง”

1. งดใส่ปุ๋ยที่มี P สูง

• หยุดใช้ DAP, MAP, 15-30-15, 12-24-12 ฯลฯ ชั่วคราว

• หันมาใช้สูตร ปุ๋ย N สูง หรือ K สูง เช่น 21-0-21, 46-0-0, 0-0-50

2. ปรับดินให้ฟอสฟอรัสเคลื่อนตัวลดลง

• พรวนดินผสมกับ อินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยหมัก ขี้วัวเก่า แกลบดำ

• ใส่ ยิปซัมธรรมชาติ (CaSO₄) หรือ โดโลไมท์เล็กน้อย ช่วยจับ P ส่วนเกิน

3. พ่นธาตุรองทางใบ (Fe, Zn, Mn, Mg)

• เพื่อให้พืชดูดธาตุที่ถูกฟอสฟอรัสยับยั้งได้ทางใบ

• เช่นใช้ “ธาตุอาหารรองรวม” หรือแยกเดี่ยวก็ได้

4. ปลูกพืชดึง P ออก

• พืชที่ใช้ฟอสฟอรัสสูง เช่น ข้าวโพด, ถั่วเขียว, ถั่วลิสง, ปอเทือง

• เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วไถกลบหรือนำเศษพืชออกจะช่วยลด P ในดินได้

วิธีวัดว่า "ดินฟอสฟอรัสสูง" หรือไม่

• ใช้ ชุดทดสอบดิน (test kit) หาซื้อได้ตามร้านเกษตร

• หรือส่งดินตรวจที่สำนักงานเกษตร/ศูนย์บริการดิน

• ค่าฟอสฟอรัสที่ สูงเกินไป คือ > 50 ppm (ตามมาตรฐานบางหน่วยงาน)

11 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร