ค่าความนำไฟฟ้าในดินและน้ำ(EC)

ค่าความนำไฟฟ้า (EC: Electrical Conductivity) ในดินและน้ำ เป็นตัวชี้วัดปริมาณ "เกลือแร่ที่ละลายน้ำได้" ซึ่งรวมถึงปุ๋ยและธาตุอาหารที่พืชสามารถดูดใช้ได้ (หรือในบางกรณีคือเกลือสะสมที่พืชใช้ไม่ได้)

ค่า EC คืออะไร?

เป็นค่าที่บอกว่า ของเหลวนั้นสามารถนำไฟฟ้าได้ดีแค่ไหน ยิ่งมีเกลือแร่ / ธาตุอาหารละลายอยู่มาก ยิ่งนำไฟฟ้าได้ดี ค่า EC ยิ่งสูง

• หน่วยวัด: มิลลิซีเมนส์ต่อเซนติเมตร (mS/cm) หรือ เดซิซีเมนส์ต่อเมตร (dS/m) (1 dS/m = 1 mS/cm)

• เครื่องวัด EC สามารถใช้วัดทั้งใน “ดินละลายน้ำ” และ “น้ำชลประทาน

ค่า EC ที่เหมาะสมใน "น้ำ" สำหรับพืช

ค่า EC ในน้ำ (mS/cm) ความหมาย
0.0–0.5 น้ำใสสะอาด แทบไม่มีแร่ธาตุ พืชอาจขาดอาหาร
0.5–1.5 ดีมาก เหมาะกับผัก, ไม้ผล, มะนาว
1.5–2.5 ปานกลาง เริ่มเสี่ยงเค็มสำหรับพืชอ่อน
> 2.5 เค็มเกินไป ไม่เหมาะกับพืชส่วนใหญ่
มะนาวชอบน้ำที่ EC ~ 0.8–1.5 mS/cm → มีแร่ธาตุเพียงพอ ไม่สะสมเกลือ

ค่า EC ที่เหมาะสมใน "ดิน" ปลูกพืช

ค่า EC ในดิน (ดินละลายน้ำ 1:2.5) ความหมาย
< 0.5 mS/cm ดินจน ปุ๋ยน้อย → พืชดูดอาหารไม่พอ
0.5–1.5 mS/cm หลีกเลี่ยงแดดจัดหรือฝนตก
1.5–3.0 mS/cm เหมาะสม พืชดูดธาตุได้ดี
> 3.0 mS/cm ดินเค็มจัด รากไหม้ พืชชะงักหรือตาย

การใช้ EC ในสวนมะนาว

จุดวัด ใช้เพื่อตรวจสอบอะไร
น้ำรดต้น ดูว่าน้ำมีแร่ธาตุพอหรือเค็มเกิน
ดิน (เจาะตัวอย่างดินผสมน้ำ 1:2.5) ตรวจสอบว่ามีปุ๋ยสะสมหรือขาดปุ๋ย
น้ำปุ๋ย (ในระบบน้ำหยด) ตรวจสอบความเข้มข้นก่อนให้น้ำ

เครื่องวัด EC: แบบใดใช้กับอะไร?

ประเภทเครื่อง ใช้กับอะไร
EC Meter แบบปากกา วัดน้ำ, น้ำปุ๋ย, น้ำหมัก
EC Meter ดิน (วัดโดยตรง) วัดดินชื้นในแปลง (สะดวกแต่ความแม่นยำอาจต่ำกว่าวิธีละลายน้ำ)
การวัดแบบ 1:2.5 ใช้ดิน 1 ส่วน + น้ำกลั่น 2.5 ส่วน → กรองแล้ววัด EC ได้แม่นยำมาก

ถ้า EC สูงเกินไปจะเกิดอะไร?

• รากมะนาวดูดน้ำลำบาก (เพราะแรงออสโมซิสกลับด้าน)

• ใบเหลือง ร่วง ไม่แตกยอด

• ดินแข็ง เปรี้ยว รากเน่า

• จุลินทรีย์ดีในดินลดลง

ทางแก้:

• ล้างดินด้วยน้ำจืดมาก ๆ

• ลดการใช้ปุ๋ยเคมี

• เติมปุ๋ยอินทรีย์-น้ำหมักแทน

• ใส่ฮิวมิค/ฟุลวิค แอซิด เพื่อช่วยปรับสภาพดิน

14 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร