เทคนิคการใช้ชีวภัณฑ์ช่วงฤดูฝน

การใช้ ชีวภัณฑ์ช่วงฤดูฝน ต้องอาศัยเทคนิคเฉพาะ เพื่อให้จุลินทรีย์หรือสิ่งมีชีวิตชีวภัณฑ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในสภาพที่ฝนตกชุกและความชื้นสูง ซึ่งเป็นสภาพที่เหมาะกับโรคพืช แต่ก็สามารถใช้ชีวภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืชได้ หากใช้ให้ถูกวิธี

เทคนิคการใช้ชีวภัณฑ์ช่วงฤดูฝนให้ได้ผล

1. เลือกเวลาพ่นให้เหมาะสม

• พ่นหลังฝนหยุด และใบแห้งแล้วประมาณ 1–2 ชั่วโมง เพื่อให้ชีวภัณฑ์เกาะและเริ่มทำงานได้

• พ่นช่วงเย็น หรือเช้ามืด ที่แสงแดดอ่อน ความชื้นสูง → ช่วยยืดอายุจุลินทรีย์บนใบ

• หลีกเลี่ยงพ่นก่อนฝนตก หรือช่วงแดดแรงจัด (จะฆ่าจุลินทรีย์)

2. ใช้ร่วมกับสารจับใบชนิดชีวภาพ

• เช่น สารจับใบจาก น้ำส้มควันไม้, สบู่ชีวภาพ, น้ำมันพืชเล็กน้อย → ช่วยให้จุลินทรีย์เกาะใบได้ดี ลดการถูกฝนชะล้าง

3. พ่นซ้ำสม่ำเสมอ

• พ่นทุก 5–7 วัน ต่อเนื่องในช่วงฝนตกชุก โดยเฉพาะช่วงพืชแตกใบอ่อน หรือช่วงเริ่มพบโรคแมลง

• การพ่นบ่อยๆ ช่วยให้มีจุลินทรีย์สะสมบนพืชต่อเนื่อง

4. ควบคุม pH น้ำ

• ชีวภัณฑ์ส่วนมากทำงานดีที่ pH 6.5–7.5

• ถ้าน้ำฝนมี pH ต่ำ (กรด) อาจต้องเติมหินปูนบดหรือปูนแดงเล็กน้อยเพื่อปรับค่า

5. อย่าผสมกับสารเคมี

• ห้ามพ่นร่วมกับสารเคมีฆ่าแมลง ยาฆ่าเชื้อรา หรือปุ๋ยเคมีเข้มข้น → จะทำลายจุลินทรีย์ในชีวภัณฑ์ทันที

ตัวอย่างชีวภัณฑ์ยอดนิยมช่วงฝน

ชื่อชีวภัณฑ์ ควบคุมอะไร หมายเหตุ
บาซิลลัส ซับทิลิส โรคแคงเกอร์, ใบจุด, ราแป้ง ชอบความชื้น พ่นตอนใบแห้ง
ไตรโคเดอร์มา รากเน่า โคนเน่า โรคราก ใช้ทางดิน ร่วมกับอินทรีย์วัตถุ
เมทาไรเซียม เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ หนอน ชอบความชื้น พ่นใต้ใบ ช่วงเย็น
บีที (Bacillus thuringiensis) หนอนชนิดต่างๆ พ่นก่อนหนอนชอนไช จะได้ผลดี
บิวเวอเรีย เพลี้ยกระโดด เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน ระบาดได้ดีช่วงความชื้นสูง

เคล็ดลับเสริม

• เติม น้ำตาลทรายแดง หรือ น้ำมะพร้าว/น้ำซาวข้าว เล็กน้อยในถังพ่น → เป็นอาหารให้จุลินทรีย์เพิ่มการเจริญเติบโตบนพืช

• ทำแปลงให้ระบายน้ำดี → ลดโอกาสโรครากที่อาจทำลายผลของชีวภัณฑ์

401 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร