แหล่งโพแทสเซียม (Potassium - K) จากธรรมชาติที่ใช้ได้ใน เกษตรอินทรีย์ หรือเกษตรแบบลดการใช้เคมี มีหลายชนิด โดยสามารถใช้ได้ทั้งแบบ ใส่ลงดิน และ ฉีดพ่นทางใบ ซึ่งโพแทสเซียมเป็นธาตุอาหารหลักที่ จำเป็นมากสำหรับมะนาวช่วงออกดอก ติดผล และเร่งความหวานน้ำในผล

แหล่งโพแทสเซียมจากธรรมชาติที่แนะนำ

1. ขี้เถ้าไม้ (Wood Ash)

• มีโพแทสเซียมสูง (K₂O ประมาณ 3–7%)

• มีแคลเซียม แมกนีเซียม และสารปรับสภาพดิน

• ช่วยปรับ pH ดินให้เหมาะสม (เป็นด่างเล็กน้อย)

วิธีใช้:

• หว่านบางๆ รอบโคนต้น (ไม่ให้โดนโคนโดยตรง) ประมาณ 1–2 กำมือต่อต้น ทุก 1–2 เดือน

• ห้ามใช้ร่วมกับปุ๋ยไนโตรเจนในเวลาเดียวกัน เพราะจะทำให้ไนโตรเจนระเหย

2. หินแร่โพแทส (Rock Potash หรือ Potassium Feldspar)

• ปลดปล่อยธาตุอาหารช้า แต่มีผลในระยะยาว

• ใช้คลุกกับปุ๋ยคอกหรือหมักร่วมกับอินทรียวัตถุ

วิธีใช้:

• ใช้ 0.5–1 กิโลกรัมต่อไร่ต่อครั้ง หรือประมาณ 2–3 ช้อนโต๊ะต่อต้น

• ใส่ร่วมกับปุ๋ยหมักหรือมูลสัตว์

3. เปลือกกล้วยและผลไม้สุก

• เปลือกกล้วยมีโพแทสเซียมสูง และมีน้ำตาลช่วยเร่งจุลินทรีย์ในดิน

วิธีใช้:

• ฝังเปลือกกล้วยรอบโคนต้น หรือหมักเป็นน้ำหมักชีวภาพ

สูตรน้ำหมักเปลือกกล้วย

• เปลือกกล้วยสุก 1 กก. + กากน้ำตาล 100 ซีซี + น้ำ 5 ลิตร หมัก 7–10 วัน

• ใช้ 200–300 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร รดโคนหรือฉีดพ่นทุก 10–15 วัน

4. น้ำหมักชีวภาพจากพืชธาตุสูง (ชีวภัณฑ์โพแทสเซียม)

• ใช้พืชท้องถิ่น เช่น ต้นกล้วย ใบตำลึง ใบมันสำปะหลัง หรือผักชีฝรั่งหมัก

สูตรหมักง่าย:

• พืชเขียวสด 3 กก. + กากน้ำตาล 1 ลิตร + น้ำ 5 ลิตร หมัก 7–15 วัน

• ใช้ฉีดพ่นหรือราดโคนต้นเหมือนน้ำหมักเปลือกกล้วย

5. กากพืชผักใบเขียวแห้ง (ทำปุ๋ยหมัก)

• ใช้ร่วมกับปุ๋ยคอก เช่น มูลวัว มูลไก่

• ย่อยสลายแล้วให้ธาตุอาหารหลักและรอง รวมถึงโพแทสเซียม

การใช้โพแทสเซียมในมะนาว

112 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร