ผลกระทบการรดน้ำบ่อยเกินไป

การ รดน้ำบ่อยเกินไป โดยเฉพาะกับพืชอย่าง "มะนาว" หรือพืชที่ต้องการดินร่วนโปร่ง จะส่งผลเสียมากกว่าผลดีในระยะยาว ทั้งต่อ ราก ดิน และสุขภาพโดยรวมของพืช

ผลกระทบจากการรดน้ำบ่อยเกินไป

1. รากขาดอากาศ / รากเน่า

• ดินอิ่มน้ำจนไม่มีช่องว่างให้อากาศผ่าน → รากหายใจไม่ได้

• รากจะเน่า โดยเฉพาะรากฝอย ซึ่งสำคัญต่อการดูดธาตุอาหาร

2. เชื้อราในดินเจริญเติบโต

• เชื้อราที่ชอบความชื้น เช่น Phytophthora, Fusarium และ Pythium จะทำให้เกิดโรครากเน่า โคนเน่า

• โดยเฉพาะในดินปลูกที่ไม่ระบายน้ำดี

3. พืชดูดสารอาหารได้น้อยลง

• แม้จะมีธาตุอาหารในดิน แต่รากไม่สามารถดูดได้ดีเพราะขาดอากาศ

• ส่งผลให้พืชโตช้า ใบเหลือง ขาดธาตุรอง/เสริมได้ง่าย

4. ยอดไม่แตก ใบไม่งาม

• รากไม่ทำงาน ส่งผลให้พืชไม่สามารถผลิตพลังงานไปยังยอด → ใบอ่อนไม่แตก ยอดหยุดการเจริญ

5. เกิดกลิ่นเหม็นในดิน / ดินเป็นกรด

• เมื่อจุลินทรีย์ในดินเน่าเสียแทนที่จะย่อยสลาย → ทำให้ดินมีกลิ่นเหม็นและเสียสมดุล pH

สัญญาณว่า "คุณรดน้ำบ่อยเกินไป"

• ดินชื้นตลอดเวลา แม้ไม่ได้รดมา 2–3 วัน

• ใบเริ่มเหลืองจากโคน แล้วร่วง

• ลำต้นซีกหนึ่งเหี่ยว ใบตก

• ดินมีกลิ่นเหม็นอับ

• มะนาวไม่แตกยอดใหม่เลย ทั้งที่ให้ปุ๋ยแล้ว

คำแนะนำในการรดน้ำที่เหมาะสม

สภาพปลูก แนวทางรดน้ำ
ปลูกในกระถาง รดเมื่อดินแห้งประมาณ 1–2 นิ้วจากผิวหน้า / ทุก 2–3 วัน
ปลูกลงดิน รดลึกแต่ไม่บ่อย สัปดาห์ละ 2 ครั้งก็พอ (ขึ้นกับสภาพอากาศ)
หน้าฝน หยุดรดหรือระวังน้ำขัง ตรวจรากเน่า
เคล็ดลับ: ใช้นิ้วจิ้มดินลึก 1–2 นิ้ว ถ้าดินยังชื้น ไม่ต้องรดน้ำ

83 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร