บทวิเคราะห์แนวโน้มตลาดเกษตรปลอดภัย โดยเน้นเฉพาะในบริบทของประเทศไทย และสามารถประยุกต์ใช้กับสินค้าการเกษตรอย่าง มะนาวปลอดภัยจากสารพิษ ได้เช่นกัน

แนวโน้มตลาดเกษตรปลอดภัย (Safe Agriculture Market Trend) ปีนี้

1. ความต้องการบริโภคพืชผัก-ผลไม้ปลอดภัย เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะหลังยุคโควิด-19 สินค้าที่มีตรารับรอง เช่น GAP (Good Agricultural Practices) หรือ Organic Thailand เป็นที่ต้องการเพิ่ม ร้านค้าปลีกทันสมัย เช่น Tops, Gourmet Market, Makro หันมาจัดโซนสินค้าเกษตรปลอดภัยเพิ่มขึ้น

2. ตลาดออนไลน์ช่วยเปิดโอกาสให้เกษตรกรรายย่อย

เกษตรกรสามารถขายผลผลิต โดยตรงถึงผู้บริโภค ผ่านช่องทาง Facebook, Line, TikTok, Shopee, Lazada มีการรวมกลุ่มเครือข่าย เกษตรปลอดภัย เพื่อจัดส่งผลผลิตแบบพรีออเดอร์ถึงบ้าน เพิ่มโอกาสสร้าง แบรนด์ท้องถิ่น จากสวนมะนาวหรือฟาร์มรายย่อย

3. ผู้บริโภคพร้อมจ่าย แพงขึ้น ถ้ามั่นใจว่าปลอดภัยจริง

มะนาวปลอดสารพิษขายได้ในราคาสูงกว่าท้องตลาดทั่วไป 20–50% หากมีเอกสารรับรอง เช่น GAP หรือ Organic จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือ ตลาดต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป ต้องการผลไม้ปลอดสารพิษจำนวนมาก

4. หน่วยงานรัฐสนับสนุนมากขึ้น

กรมวิชาการเกษตร และกระทรวงเกษตรฯ ส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าสู่ระบบ GAP และเกษตรอินทรีย์มีโครงการอบรม ฟรี / สินเชื่อ / บริการตรวจแปลง / ตรวจสารตกค้างบางจังหวัดมีนโยบายส่งเสริม อำเภอเกษตรปลอดภัย หรือ หนึ่งตำบลหนึ่งเกษตรอินทรีย์

5. เทรนด์ใหม่

ความยั่งยืน (Sustainability) + ภูมิปัญญาไทย ผู้บริโภคชื่นชอบผลผลิตที่ปลูกแบบ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม การใช้สมุนไพรแทนสารเคมี เช่น น้ำหมักชีวภาพ ใบสะเดา น้ำส้มควันไม้ เริ่มแพร่หลาย เทรนด์ กินท้องถิ่น / กินตามฤดูกาล กำลังได้รับความนิยม

ตัวอย่างสินค้าเกษตรปลอดภัยที่มีโอกาสเติบโตดี

สรุปสำหรับเกษตรกรที่สนใจตลาดเกษตรปลอดภัย

:: เริ่มต้นจากการเข้าสู่ระบบ GAP หรืออินทรีย์

:: ใช้สื่อออนไลน์เล่าเรื่องการปลูกแบบปลอดภัย

:: พัฒนาบรรจุภัณฑ์และตราสินค้าให้มีความน่าเชื่อถือ

สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง

160 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร