การตรวจสอบธาตุแคลเซียม-โบรอน

การ ตรวจสอบธาตุแคลเซียม (Ca) และ โบรอน (B) ในมะนาว เป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะช่วงที่ต้นกำลังแตกยอดหรือเริ่มติดดอก-ผล เพราะสองธาตุนี้ทำงาน “คู่กัน” ในการสร้างเนื้อเยื่ออ่อนและผนังเซลล์ให้แข็งแรง

วิธีตรวจสอบ “ธาตุแคลเซียม-โบรอน”

1. สังเกตจากอาการภายนอกของต้นมะนาว

• อาการขาดแคลเซียม (Ca)

• ยอดอ่อนบิดงอ ปลายใบคดหรือม้วน

• ใบอ่อนแตกยาวผิดรูป หรือปลายใบแห้งกรอบ

• ผลมะนาวเปลือกบาง แตกง่าย หรือมีจุดสีน้ำตาลใต้ผิว

• รากอ่อนสั้น ปลายรากดำ

• มักพบเมื่อดินมี pH ต่ำกว่า 5.5 หรือมีโพแทสเซียม/แมกนีเซียมสูงเกิน ทำให้รากดูด Ca ไม่ได้

อาการขาดโบรอน (B)

• ยอดอ่อนบิดงอและแตกไม่สุด (ปลายยอดแห้งหรือแหว่ง)

• ใบอ่อนหนา แข็ง สีเขียวเข้มผิดปกติ

• ดอกมะนาวร่วงง่าย เกสรไม่สมบูรณ์

• ผลเบี้ยว มีรอยแตกที่ขั้ว หรือเปลือกหนาไม่สม่ำเสมอ

• มักพบในดินที่ แห้งจัดหรือด่าง (pH > 7.5) และในช่วงที่ฝนตกชะล้างธาตุ

2. การตรวจวิเคราะห์ดินหรือใบ (ทางห้องแล็บ)

• ถ้าต้องการทราบระดับธาตุแน่นอน เก็บตัวอย่าง ใบอ่อนชุดที่ 3–5 จากปลายยอด แล้วส่งตรวจที่กรมพัฒนาที่ดิน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ / ม.เชียงใหม่ / ม.ขอนแก่น หรือศูนย์บริการตรวจดินเอกชน ผลจะระบุค่าธาตุในหน่วย ppm หรือ %

• ค่าเหมาะสมของมะนาวโดยทั่วไป Ca: 1.0-2.5% ,B: 25-60 ppm

3. ตรวจสอบทางอ้อมจากดิน

• ใช้ชุดทดสอบดินแบบภาคสนาม (Field Test Kit)

• ชุดตรวจ pH และแคลเซียม-โบรอนของกรมพัฒนาที่ดินมีจำหน่ายทั่วไป

• วัด pH ควบคู่ ถ้า pH < 5.5 มีความเสี่ยงขาด Ca ถ้า pH > 7.5 มีความเสี่ยงขาด B

แนวทางปรับแก้

ธาตุ วิธีให้ทางดิน วิธีพ่นทางใบ
แคลเซียม (Ca) ปูนโดโลไมต์ / แคลเซียมคาร์บอเนต 100–200
กก./ไร่ ปีละ 1–2 ครั้ง
แคลเซียมไนเตรต / แคลเซียมโบรอน 20–30 ซีซี/น้ำ
20 ลิตร ทุก 10–15 วัน
โบรอน (B) ใช้บอแรกซ์หรือโซเดียมบอเรต 1–2 กก./ไร่/ปี
ผสมในปุ๋ยคอกหรือดิน
พ่นกรดบอริก (Boric acid) 10–20 กรัม/น้ำ 20 ลิตร
หรือแคลเซียมโบรอน

74 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร