การใช้น้ำบาดาลในสวนมะนาวมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งผลกระทบขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำบาดาลนั้นเอง รวมถึงวิธีการใช้งานด้วย สำหรับต้นทุนเป็นการลงทุนแบบครั้งเดียวที่สูง แต่ก็สามารถใช้ได้นาน เมื่อใช้ร่วมกับพลังงานแสงอาทิตย์ สามารถใช้ได้กับสวนที่ไม่มีแหล่งน้ำและระบบไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง ถือว่าคุ้มมากๆ
ข้อดีของการใช้น้ำบาดาลในสวนมะนาว
1. แหล่งน้ำที่มั่นคง :: น้ำบาดาลมักมีปริมาณคงที่กว่าน้ำผิวดิน โดยเฉพาะในฤดูแล้ง
2. สามารถควบคุมได้ง่าย :: ไม่ต้องพึ่งพาฝนหรือระบบชลประทานจากภายนอก
3. ไม่มีการระเหยเร็ว :: เพราะน้ำบาดาลอยู่ใต้ดิน ไม่เสียหายจากแสงแดด มีแหล่งน้ำใช้ตลอดปี
ผลกระทบและข้อควรระวังจากการใช้น้ำบาดาล
1. คุณภาพน้ำ
• ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) :: ถ้า pH ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป จะกระทบต่อการดูดธาตุอาหารของมะนาวแน่นอน
• ความเค็ม (EC) :: น้ำบาดาลที่มีความเค็มสูงอาจทำให้มะนาวโตช้า ใบร่วง หรือผลร่วง
• ธาตุโลหะหนัก/ฟลูออไรด์ :: หากมีสะสม อาจเป็นพิษต่อรากมะนาว
2. ดินเสื่อมคุณภาพ
• หากใช้น้ำที่มี โซเดียมสูง (Na+) เป็นเวลานาน จะทำให้โครงสร้างดินแน่น ดินไม่ร่วนซุย น้ำระบายไม่ดี
• การสะสมของเกลือแร่ ทำให้ดินมีความเค็มมากขึ้น ซึ่งอาจต้องมีการล้างดินหรือใช้น้ำจืดล้างเป็นระยะ
3. ต้นทุนพลังงาน
• ต้องใช้ปั๊มน้ำไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์ในการสูบน้ำบาดาล ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่ถ้าใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ลงทุนสูงในระยะแรกถือว่าคุ้มค่า
แนวทางการจัดการและแก้ปัญหา
1. ตรวจสอบคุณภาพน้ำบาดาลก่อนใช้งาน :: ทดสอบค่าความเค็ม pH และธาตุต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ
2. ใช้น้ำร่วมกับน้ำฝนหรือน้ำผิวดิน :: เพื่อลดความเข้มข้นของแร่ธาตุในน้ำ
3. ปรับปรุงดินอย่างสม่ำเสมอ :: ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ปรับปรุงโครงสร้างดินให้ร่วนซุย
4. ปลูกพืชคลุมดิน :: ช่วยรักษาความชื้น ลดการระเหย และปรับปรุงดิน
61 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร