ความต่างของมูลวัวและมูลควาย

“มูลวัว” กับ “มูลควาย” ถึงจะมาจากสัตว์เคี้ยวเอื้องเหมือนกัน แต่คุณสมบัติทางกายภาพและเคมี ต่างกันพอสมควร ซึ่งส่งผลต่อการเลือกใช้ในสวนมะนาวหรือแปลงเกษตรโดยตรงเลยครับ

1. มูลวัว (Cow Manure)

ลักษณะทั่วไป

• เนื้อร่วนละเอียด

• ย่อยสลายง่าย

• มีอินทรียวัตถุสูง

• กลิ่นไม่แรงมาก

• ระบายอากาศดีเมื่อผสมดิน

คุณค่าทางอาหารพืช (โดยเฉลี่ย)

ธาตุอาหาร ปริมาณ (%)
ไนโตรเจน (N) 0.5 - 0.7
ฟอสฟอรัส (P₂O₅) 0.3 - 0.5
โพแทสเซียม (K₂O) 0.5 - 0.6

ข้อดี: เหมาะกับการปรับปรุงดินปลูกพืชทุกชนิด รวมถึงมะนาว เพราะช่วยให้ดินร่วนซุยและเพิ่มจุลินทรีย์

ข้อควรระวัง: ถ้าไม่หมักให้ดี อาจมีเมล็ดวัชพืชหรือเชื้อราปนมา

2. มูลควาย (Buffalo Manure)

ลักษณะทั่วไป

• เนื้อหยาบกว่า มักจับตัวเป็นก้อน

• มีเส้นใยหญ้าที่ย่อยไม่หมดมาก

• ความชื้นสูง

• ย่อยสลายช้ากว่ามูลวัว

คุณค่าทางอาหารพืช (โดยเฉลี่ย)

ธาตุอาหาร ปริมาณ (%)
ไนโตรเจน (N) 0.4 - 0.5
ฟอสฟอรัส (P₂O₅) 0.2 - 0.3
โพแทสเซียม (K₂O) 0.4 - 0.5

ข้อดี: เหมาะกับการปรับปรุงดินเหนียวหรือดินแข็ง เพราะช่วยเพิ่มโครงสร้างให้โปร่ง

ข้อควรระวัง: ถ้าใช้สด ๆ จะทำให้ดินแน่นและร้อนในช่วงแรก

3. สรุปเปรียบเทียบ

ประเด็น มูลวัว มูลควาย
เนื้อสัมผัส ละเอียด ร่วน หยาบ เหนียว
การย่อยสลาย เร็ว ช้า
กลิ่น อ่อน แรงกว่า
ปริมาณธาตุอาหาร สูงกว่าเล็กน้อย ต่ำกว่าเล็กน้อย
เหมาะกับ พืชผัก ผลไม้ (เช่น มะนาว) ดินเหนียว ดินแข็ง
การใช้ในสวนมะนาว เหมาะมาก เพราะช่วยรากหายใจดี ใช้ได้ แต่ควรหมักก่อน

4. แนะแนวสำหรับสวนมะนาว

ถ้ามีให้เลือก ใช้มูลวัวเป็นหลัก เพราะช่วยเพิ่มความร่วนซุยของดินและให้ธาตุอาหารสมดุลกว่า

ถ้ามีแต่มูลควาย ควร หมักอย่างน้อย 30–45 วัน ร่วมกับ พด.1 หรือจุลินทรีย์ย่อยสลายอินทรีย์ เพื่อให้โครงสร้างเนื้อดินดีขึ้นก่อนใช้งาน

45 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร