การติดตั้งวาล์วผสมปุ๋ย

“การติดตั้งวาล์วผสมปุ๋ย (Venturi หรือ Fertilizer Injector)” ถือเป็นหัวใจของการจัดการน้ำ-ปุ๋ยในสวนมะนาวยุคใหม่เลยครับ เพราะถ้าติดตั้งถูกต้อง จะควบคุมอัตราปุ๋ยได้แม่นยำ ประหยัดแรง และลดต้นทุนการให้น้ำได้มาก

หลักการทำงานของ “วาล์วผสมปุ๋ย (Venturi)”

วาล์วผสมปุ๋ยอาศัย “แรงดันน้ำส่วนต่าง” เพื่อดูดสารละลายปุ๋ยเข้าระบบ เมื่อมีการไหลของน้ำผ่านท่อ Venturi จะเกิด แรงดูด (vacuum) ทำให้ ปุ๋ยจากถังละลาย ถูกดูดเข้ามาผสมกับน้ำในระบบโดยอัตโนมัติ ไม่มีไฟฟ้า ไม่ต้องใช้ปั๊มแยก ใช้แค่แรงดันจากปั๊มหลักของระบบน้ำเท่านั้นครับ

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

• ท่อหลัก (Main Line) - ท่อส่งน้ำหลักจากปั๊ม

• วาล์วปิด–เปิด (Ball Valve) - ใช้ควบคุมการไหลและแรงดัน

• Venturi Injector - ตัววาล์วผสมปุ๋ย

• ถังละลายปุ๋ย - ภาชนะผสมปุ๋ยกับน้ำ (ควรมีกรองก่อนเข้า Venturi)

• ท่อดูดปุ๋ย + วาล์วกันย้อน + ฟิลเตอร์ดูด (foot filter)

• เกจวัดแรงดัน (Pressure Gauge) - ใช้วัดความต่างแรงดันก่อน-หลัง Venturi

รูปแบบการติดตั้งมาตรฐาน (แบบ Bypass System)

[ปั๊มน้ำ] ──>── [วาล์ว A] ──>── [ท่อหลัก] ──>── [วาล์ว C] ──>── [สวนมะนาว]
                                                         │
                                                         │
                                                     [วาล์ว B]
                                                         │
                                            [Venturi + ท่อดูดปุ๋ย]
                                                         │
                                                 [ถังละลายปุ๋ย]

การทำงาน

• เปิดวาล์ว A และ C ครึ่งหนึ่ง แล้วเปิดวาล์ว B ให้ Venturi ทำงาน

• แรงดันน้ำจะไหลบางส่วนผ่าน Venturi เกิดแรงดูดปุ๋ยเข้าระบบ

• ปรับสัดส่วนการดูดโดยหมุนวาล์ว A-B-C ให้เหมาะสม

เทคนิคสำคัญในการติดตั้ง

1. แรงดันก่อน Venturi ต้องมากกว่าแรงดันหลัง Venturi อย่างน้อย 0.5-1.0 บาร์ ถ้าแรงดันต่างกันไม่พอ วาล์วจะไม่ดูดปุ๋ย

2. ควรติดตั้ง Venturi แบบแนวนอน เพื่อให้แรงดูดสม่ำเสมอ

3. มีวาล์วกันย้อน (Check Valve) ป้องกันน้ำย้อนเข้าในถังปุ๋ย

4. กรองละเอียดก่อนเข้าท่อพ่นน้ำ (Filter 120-150 mesh) เพื่อไม่ให้ตะกอนจากปุ๋ยอุดหัวน้ำหยด

5. อย่าต่อท่อดูดปุ๋ยยาวเกิน 1.5 เมตร เพราะแรงดูดจะลดลง

ขั้นตอนการใช้งาน

1. ละลายปุ๋ยในถัง (อัตราส่วนประมาณ 1:100 ถึง 1:200 ของน้ำในระบบ)

2. เปิดปั๊มน้ำ

3. ปรับวาล์วให้ Venturi เริ่มดูดปุ๋ย (ดูจากสายดูดปุ๋ยเริ่มมีฟองอากาศหรือปุ๋ยไหล)

4. วัดความเข้มข้นของน้ำปุ๋ยปลายทาง (EC) ให้ตรงตามสูตร

5. เมื่อดูดหมด ปิดวาล์ว B และเปิดน้ำเปล่าล้างระบบอีก 10-15 นาที

ข้อควรระวัง

ห้ามผสมปุ๋ยเคมีบางชนิดรวมกัน (เช่น Ca กับ P, S, หรือ SO₄) ในถังเดียว ถังปุ๋ยต้องมี “ฝาปิดแน่น” ป้องกันฝุ่นและแสงแดด ล้าง Venturi ทุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อไม่ให้เกิดตะกรัน

สรุป

“วาล์วผสมปุ๋ย Venturi” ติดตั้งแบบ บายพาส (Bypass) ต้องมีแรงดันต่างระหว่างท่อหลักและท่อบายพาส และควรติดตั้ง กรอง-กันย้อน-เกจวัดแรงดัน ครบชุด เพื่อให้ดูดปุ๋ยได้คงที่ ปลอดภัย และไม่อุดตันระบบน้ำหยด

35 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร