การขยายพันธุ์มะนาวด้วยการปักชำตาข้าง

คำว่า “การปักชำตาข้าง” จริงๆ แล้วเป็นเทคนิคผสมระหว่าง การปักชำกิ่ง กับ การใช้ตาข้าง (bud) โดยจะเลือกกิ่งพันธุ์ดีที่มี ตาข้างสมบูรณ์ 1 ตา มาตัดเป็นท่อนสั้นๆ มีใบติดมาหนึ่งใบ แล้วชำลงในวัสดุปลูกเพื่อให้เกิดรากและแตกยอดใหม่ออกจากตาข้าง ซึ่งมีหลายคนไปใช้คำว่า "การขยายพันธุ์มะนาวด้วยใบ" ซึ่งเป็นการใช้คำที่ฟังดูแล้วน่าตื่นเต้น และน่าติดตาม

วิธีการปักชำตาข้างมะนาว

1. เลือกกิ่งพันธุ์ดี

• ใช้กิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อน (เพิ่งเปลี่ยนสีเขียวเข้มเป็นน้ำตาลอ่อน ๆ)

• ต้องมีตาข้างสมบูรณ์ ไม่เป็นโรค ไม่ถูกแมลงทำลาย

• เลือกกิ่งที่รับแสงพอสมควร ไม่ชะลูด

2. การตัดท่อนชำ

• ตัดกิ่งให้มีความยาว 3–4 ซม.

• ให้มี “ตาข้าง” ติดอยู่ 1 ตา(ตำแหน่งซอกใบ) มีใบ 1 ใบ

• ปาดด้านโคนเฉียง 45° เพื่อเพิ่มพื้นที่ออกราก

• ถ้าต้องการลดการคายน้ำ ให้ตัดใบออก เหลือใบครึ่งหนึ่งหรือเด็ดทิ้งหมด

3. การเตรียมวัสดุชำ

• ใช้ขุยมะพร้าว + ทรายหยาบ + แกลบดำ อัตรา 1:1:1

• หรือใช้เพียงขุยมะพร้าวก็ได้ แต่ต้องสะอาด ไม่เค็ม

• รองก้นถุงพลาสติกเพาะชำด้วยดินร่วนหรือดินทรายเล็กน้อย

4. การชำ

• จุ่มโคนกิ่งในสารเร่งราก (เช่น IBA หรือ NAA) เพื่อกระตุ้นราก

• ปักชำลงในถุงเพาะลึกประมาณ 2–3 ซม. โดยให้ “ตาข้าง” อยู่เหนือผิววัสดุ

• รดน้ำพอชื้น ไม่แฉะ

• คลุมถุงพลาสติกใสหรือใส่ในโรงเรือนพรางแสง 50–60%

5. การดูแล

• รักษาความชื้นให้คงที่ อากาศถ่ายเท

• 2–3 สัปดาห์เริ่มมีราก

• 4–6 สัปดาห์ตาข้างจะแตกเป็นยอดใหม่

• เมื่อรากแข็งแรงแล้วจึงเปิดพลาสติก และย้ายไปลงถุงใหญ่หรือปลูกลงแปลง

ข้อดี

• ได้ต้นใหม่ที่มีลักษณะตรงตามพันธุ์

• ไม่ต้องใช้ต้นตอเหมือนการติดตา

• ทำได้ง่ายในพื้นที่จำกัด

ข้อเสีย

• อัตรารอดต่ำกว่าการตอนหรือติดตา ถ้าควบคุมความชื้นไม่ดี

• ระบบรากอาจไม่แข็งแรงเท่าการใช้ต้นตอเพาะเมล็ด

• ต้องใช้เทคนิคเร่งรากช่วย (ฮอร์โมน, ความชื้น, เรือนเพาะ)

เทคนิคนี้เหมาะสำหรับทำต้นพันธุ์ในระดับเล็ก ถ้าจะทำเชิงการค้าใหญ่ ๆ มักนิยมใช้ การติดตา หรือเสียบยอด มากกว่าเพราะได้ระบบรากแข็งแรงกว่า

30 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร