เหตุที่โบรอนในดินนำมาใช้ไม่ได้
โบรอน (B) ในดินถึงจะมีอยู่ แต่พืชมัก ใช้ไม่ได้เต็มที่ เพราะมีหลายเงื่อนไขทางเคมี–ฟิสิกส์–ชีววิทยาที่ทำให้โบรอนถูก “กัก” หรือ “สูญเสีย” ไปก่อนถึงรากมะนาว
เหตุที่โบรอนในดินใช้ไม่ได้
ปัจจัย | กลไก | ผลต่อมะนาว |
---|---|---|
pH ดิน | - ดินกรดจัด (pH < 5) โบรอนถูกชะล้างออกไปง่าย - ดินด่าง (pH > 7.5) โบรอนถูกตรึงร่วมกับแคลเซียม–อะลูมิเนียม |
รากดูดไม่ได้ ถึงแม้ดินมี B อยู่ |
ดินทราย / อินทรียวัตถุต่ำ | โครงสร้างดินเก็บ B ไม่อยู่ โบรอนละลายน้ำสูง → ถูกน้ำฝนหรือน้ำรดชะออก | ขาดโบรอนเรื้อรัง |
ความชื้นดินไม่คงที่ | - ดินแห้งเกินไป การแพร่กระจาย B ในสารละลายดินหยุด - ดินเปียกเกิน B ถูกชะล้างเร็ว |
พืชขาดโบรอนได้แม้ใส่ปุ๋ย |
ปริมาณแคลเซียมสูง | Ca²⁺ มากไป แข่งขันกับการดูด B ในเยื่อหุ้มราก | ใบอ่อนบิดงอ ดอกหล่น |
อินทรียวัตถุสลายตัวไม่พอ | โบรอนบางส่วนอยู่ในรูปสารอินทรีย์ ต้องอาศัยจุลินทรีย์ปลดปล่อย | ดินอินทรีย์น้อย = โบรอนจับแน่น ใช้ไม่ได้ |
การใช้ปุ๋ยเคมีต่อเนื่อง | N, P, K สูงเกิน รบกวนการดูด B โดยเฉพาะไนโตรเจนสูงทำให้พืชเจริญใบเร็วแต่โบรอนไม่พอ | ดอก–ผลไม่ติด |
สรุปง่าย ๆ
• โบรอนในดินไม่ใช่ว่ามีแล้วใช้ได้เลย ต้องอยู่ใน สารละลายดิน
• ถ้าดิน กรดจัด / ด่างจัด / แห้งจัด / ทรายจัด พืชมักดูด B ไม่ได้
• แม้ใส่ปุ๋ยโบรอนลงไป ถ้าสภาพดินไม่เหมาะ ก็ยัง “ขาดโบรอน” อยู่ดี
แนวทางแก้
1. ปรับ pH ดิน ให้อยู่ราว 6.0–6.5 โบรอนละลายและดูดได้ดีที่สุด 2. เพิ่มอินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยหมัก ใบไม้แห้ง เก็บโบรอนให้ค่อย ๆ ปลดปล่อย 3. จัดการน้ำ ให้ดินชื้นสม่ำเสมอ ไม่แห้งไม่ท่วม 4. เสริมพ่นทางใบ ด้วย โบรอน + แคลเซียม ช่วงก่อนออกดอกและติดผล เพื่อให้ถึงจุดที่ต้องใช้จริง7 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร