กลิ่นที่ต่างกันของมะนาว

กลิ่นของมะนาวแต่ละสายพันธุ์ต่างกัน เพราะเกิดจาก “องค์ประกอบของน้ำมันหอมระเหย” (Essential oils) และ “สารระเหยเฉพาะตัว” ที่แตกต่างกันใน เปลือก ใบ และน้ำมะนาว ของแต่ละพันธุ์

สารประกอบที่ทำให้มะนาวมีกลิ่น

ชื่อสาร กลิ่นที่ให้ พบมากใน
Limonene กลิ่นมะนาวสดใส สะอาด เปลือกมะนาวทุกสายพันธุ์
Citral หอมแรงแบบเลมอน จัดจ้าน มะนาวแป้น, เลมอน
Linalool หอมหวาน นุ่มละมุน มะนาวพันธุ์กลิ่นอ่อน
Geraniol หอมคล้ายดอกไม้ มะนาวบางพันธุ์เท่านั้น
β-Pinene, α-Pinene กลิ่นคล้ายสน-เปรี้ยวสด บางพันธุ์เท่านั้น
γ-Terpinene, Terpineol กลิ่นเฉพาะตัว คล้ายน้ำมันหอม แป้นรำไพ, แป้นรำไพ2, แป้นพิจิตร2

ทำไมแต่ละพันธุ์จึงต่างกัน

1. พันธุกรรมที่ต่างกัน

• มะนาวแป้นพิจิตร2 vs แป้นรำไพ2 มีปริมาณ Limonene, Citral ต่างกัน

• พันธุ์ตาฮิติ (ไร้เมล็ด) กลิ่นอ่อนกว่าแป้นไทย

2. สภาพดินฟ้าอากาศ

• ปลูกในที่แดดจัด กลิ่นจะแรงกว่าที่ร่ม

• ดินที่ขาดแร่ธาตุบางชนิด กลิ่นอ่อน

3. อายุของผล

• ผลอ่อน กลิ่นแรงฉุน

• ผลแก่จัด กลิ่นนุ่ม กลิ่นน้ำมันลดลง

4. การเก็บเกี่ยวและวิธีสกัด

• ถ้าบีบน้ำอย่างเดียว จะได้น้ำกลิ่นอ่อน

• ถ้าขูดผิวหรือคั้นรวมเปลือก กลิ่นแรงกว่า

ตัวอย่างความต่างกลิ่นของสายพันธุ์

สายพันธุ์ กลิ่นที่เด่น หมายเหตุ
แป้นรำไพ2 หอมแรง สดใส กลิ่นน้ำมันชัด นิยมมาก
แป้นพิจิตร2 กลิ่นค่อนข้างแรง ออกหวาน กลิ่นเบากว่ารำไพ2
ตาฮิติ กลิ่นอ่อน สดชื่นแบบเบา เปลือกหนา ไม่มีเมล็ด
เลมอน (ฝรั่ง) กลิ่นแรงแบบเลมอนยุโรป ไม่ใช่มะนาวแท้

สรุป

• กลิ่นของมะนาวขึ้นอยู่กับชนิดและสัดส่วนของ น้ำมันหอมระเหยในพันธุ์นั้น ๆ

• ถ้าอยากได้กลิ่นเฉพาะสำหรับทำอาหาร หรือเครื่องดื่ม ควรเลือกพันธุ์ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ เช่น “แป้นรำไพ” สำหรับกลิ่นแรง, “ตาฮิติ” สำหรับกลิ่นอ่อน ๆ แบบพรีเมียม

27 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร