แม้ว่า โดรนเพื่อการเกษตร จะมีข้อดีหลายประการในแง่ของการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกและลดต้นทุนแรงงาน แต่หาก ใช้โดยไม่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม หรือ ขาดความรู้ความเข้าใจในการใช้งานที่ถูกต้อง ก็อาจส่งผลกระทบต่อ ระบบนิเวศ ได้เช่นกัน

ผลกระทบของ "โดรนเกษตร" ต่อระบบนิเวศ (เมื่อใช้ผิดวิธี)

1. พ่นสารเคมีมากเกินความจำเป็น

• การใช้โดรนพ่นยาทำให้พ่นได้เร็วขึ้น แต่หากไม่มีการควบคุมปริมาณสารที่ใช้ → อาจ ใช้มากเกินความจำเป็น → ส่งผลให้มี สารเคมีตกค้างในดิน น้ำ หรือพืช มากขึ้น

• ละอองสารเคมีที่ฟุ้งกระจาย อาจลอยไปไกลและทำลายพืชหรือสัตว์ในพื้นที่ใกล้เคียง

2. รบกวนสัตว์ป่าและแมลงธรรมชาติ

• เสียงของใบพัดและแรงลมจากโดรน อาจ รบกวนการดำรงชีวิตของสัตว์ขนาดเล็ก เช่น นก แมลงผสมเกสร หรือค้างคาว

• อาจ รบกวนวงจรชีวิตของแมลงดี (แมลงตัวห้ำ ตัวเบียน) ที่ช่วยควบคุมศัตรูพืชตามธรรมชาติ

3. ละอองเคมีกระจายไปในระบบน้ำ

• หากพ่นสารใกล้แหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น ลำคลอง สระน้ำ อ่างเก็บน้ำ → ละอองสารเคมีอาจตกลงในน้ำและ สะสมในห่วงโซ่อาหาร ทำลายสิ่งมีชีวิตในน้ำ เช่น ปลา แพลงก์ตอน

4. ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์

• แบตเตอรี่โดรน เมื่อเสื่อมสภาพ ต้องมีการจัดการอย่างเหมาะสม → หากทิ้งอย่างไม่ถูกต้อง อาจเกิด การรั่วไหลของสารพิษ เช่น ลิเธียมหรือโลหะหนัก ลงในดินและน้ำ

5. การขยายเกษตรเคมีแบบเร่งด่วน

• โดรนทำให้พ่นยาเร็ว ง่าย สะดวก → อาจทำให้เกษตรกรบางราย พึ่งสารเคมีมากขึ้น แทนที่จะปรับระบบสู่เกษตรยั่งยืน

แนวทางลดผลกระทบของโดรนต่อระบบนิเวศ

• ใช้สารชีวภาพหรือสารอินทรีย์ร่วมกับโดรน เช่น น้ำหมักสมุนไพร สารชีวภัณฑ์ → ลดสารพิษสะสมในระบบนิเวศ

• กำหนดเวลา/พื้นที่การพ่นให้ปลอดภัย หลีกเลี่ยงพ่นช่วงลมแรง ใกล้แหล่งน้ำ หรือช่วงที่แมลงผสมเกสรออกหากิน

• ใช้โดรนร่วมกับระบบเกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) เช่น ตรวจภาพด้วย NDVI ก่อนพ่น → พ่นเฉพาะจุดที่มีปัญหา ลดการใช้สารโดยไม่จำเป็น

• จัดการแบตเตอรี่และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี ส่งคืนให้ผู้ผลิต หรือกำจัดผ่านศูนย์รีไซเคิลที่ได้รับอนุญาต

สรุปสั้น ๆ:

“โดรนไม่ใช่ผู้ร้าย” แต่การใช้โดรนแบบไม่เข้าใจระบบนิเวศต่างหากที่เป็นภัยเงียบ หากใช้เทคโนโลยีร่วมกับการวางแผนอย่างยั่งยืน โดรนสามารถเป็นเครื่องมือที่ช่วยฟื้นฟูมากกว่าทำลายสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง

553 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร