ขี้หมูกินหัว ขี้วัวกินใบ ขี้ไก่กินผล
วลีที่ว่า "ขี้หมูกินหัว ขี้วัวกินใบ ขี้ไก่กินผล" เป็น ภูมิปัญญาชาวบ้าน หรือคำเปรียบเปรยที่ใช้ในวงการเกษตรอินทรีย์ เพื่ออธิบายว่า ปุ๋ยคอกแต่ละชนิด มีธาตุอาหารที่แตกต่างกัน และเหมาะสมกับส่วนต่าง ๆ ของพืช
ปุ๋ยคอก | ลักษณะเด่น | เหมาะสำหรับ |
---|---|---|
ขี้หมู | มีไนโตรเจนและฟอสฟอรัสสูง ดูดซึมเร็ว | ช่วยบำรุงรากและลำต้น (หัวพืช) |
ขี้วัว | ปริมาณธาตุอาหารพอประมาณ ย่อยช้า | เหมาะกับใบพืช ทำให้ใบเขียว โตดี |
ขี้ไก่ | ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูงมาก | ช่วยเร่งการออกดอก ติดผล ขยายผลผลิต |
อธิบายเชิงวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม
1. ขี้หมู (ปุ๋ยหมู)
:: มีธาตุ ไนโตรเจน (N) และ ฟอสฟอรัส (P) ค่อนข้างสูง
:: ช่วยในการเจริญเติบโตของลำต้นและระบบราก
:: นิยมใช้ในช่วงเริ่มปลูกหรือช่วงที่พืชกำลังสร้างลำต้น
2. ขี้วัว (ปุ๋ยวัว)
:: ย่อยช้า ค่อยๆ ปล่อยธาตุอาหาร
:: เหมาะสำหรับการบำรุง ใบและความสมบูรณ์โดยรวม ของพืช
:: ใช้ได้ตลอดปี ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดินได้ดี
3. ขี้ไก่ (ปุ๋ยไก่)
:: มีฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) สูง
:: เร่งดอก ออกผล เพิ่มความหวานและคุณภาพของผลผลิต
:: ควรใช้ในช่วงพืชเริ่มติดดอกหรือผล
ตัวอย่างการใช้งาน
ในการปลูกมะนาวหรือพืชผล เช่น มะเขือ พริก หรือไม้ผล:
:: ช่วงต้นปลูก ใช้ ขี้หมู เพื่อบำรุงต้นให้แข็งแรง
:: ช่วงกลาง ใช้ ขี้วัว เพื่อให้ใบเขียว ไม่ร่วง
:: ช่วงก่อนออกผล ใช้ ขี้ไก่ เพื่อเร่งดอกเร่งผล ให้ติดลูกดี
วลี "ขี้หมูกินหัว ขี้วัวกินใบ ขี้ไก่กินผล" คือภูมิปัญญาที่สรุปหลักการใส่ปุ๋ยอย่างเหมาะสมกับช่วงเจริญเติบโตของพืชแต่ละระยะ ถือเป็นแนวทาง เกษตรอินทรีย์อย่างชาญฉลาด ที่ไม่ต้องพึ่งพาปุ๋ยเคมี แต่อาศัยธรรมชาติให้พืชเจริญเติบโตอย่างสมดุล
12 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร