ทำความรู้จักไข่หนอนผีเสื้อ
ไข่หนอนผีเสื้อ คือระยะเริ่มต้นในวงจรชีวิตของผีเสื้อและแมลงกลางคืน (มอด) ที่หลายชนิดเป็น ศัตรูพืชสำคัญในสวน เช่น มะนาว มะม่วง ผัก และพืชไร่ ซึ่งถ้าไม่ควบคุมแต่ระยะไข่ ก็จะฟักเป็นหนอนที่กัดกินใบ ยอด ผล และสร้างความเสียหายอย่างมาก
ลักษณะไข่หนอนผีเสื้อ
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
รูปร่าง | กลมรี ทรงกระบอก หรือเป็นเหลี่ยม ขึ้นกับชนิดผีเสื้อ |
สี | ขาว, เขียวอ่อน, เหลือง, เทา หรือใส |
ขนาด | เล็กมาก มองด้วยตาเปล่าไม่ชัด (0.5–1 มม.) |
ตำแหน่งที่วางไข่ | ใต้ใบ, ยอดอ่อน, ผล, ก้านใบ หรือซอกพืช |
ผีเสื้อที่เป็นศัตรูพืชยอดนิยม
ชนิด | ลักษณะการทำลาย |
---|---|
หนอนเจาะผล (เช่น มะนาว มะม่วง) | ไข่บนผล → หนอนเจาะกินเนื้อใน |
หนอนกระทู้ (Fall armyworm) | ไข่ใต้ใบเป็นกลุ่ม → หนอนกินใบทั้งต้น |
หนอนเจาะลำต้น | ฟักเป็นหนอนเจาะเข้าเนื้อไม้ |
หนอนชนิดต่าง ๆ | ฟักแล้วกินใบ ยอดอ่อน ทำให้พืชชะงักการเติบโต |
แนวทางควบคุมไข่หนอนผีเสื้อแบบปลอดภัย
1. ใช้แตนเบียนไข่ (Trichogramma spp.)
• แมลงดีขนาดจิ๋วที่วางไข่ในไข่ของผีเสื้อ → ไข่ไม่ฟักเป็นหนอน
• สามารถขอรับจากศูนย์ชีวภัณฑ์ของกรมวิชาการเกษตร
• ปล่อยในแปลงทุก 7–10 วันในฤดูที่ศัตรูพืชชุก
2. พ่นสารชีวภาพจากเชื้อบีที (Bacillus thuringiensis - BT)
• ฆ่าหนอนเล็กที่ฟักจากไข่ โดยปลอดภัยต่อแมลงดี
• พ่นตอนเย็นหลังพบไข่ในแปลง
3. ใช้น้ำหมักสมุนไพร เช่น สะเดา, หางไหล, บอระเพ็ด
• พ่นใต้ใบหรือยอดเพื่อรบกวนการฟักของไข่
• ควรใช้สม่ำเสมอทุก 5–7 วัน
4. เก็บไข่และใบที่มีไข่ออกทำลาย
• โดยเฉพาะในแปลงผักหรือพื้นที่เล็กที่สามารถดูแลได้ใกล้ชิด
วิธีป้องกันระยะยาว
• ปลูกพืชล่อแมลง เช่น งา, โหระพา, ดาวเรือง → ล่อผีเสื้อให้วางไข่ห่างจากพืชหลัก
• ส่งเสริมแมลงดี เช่น แมลงช้างปีกใส, เต่าทอง, แตนเบียน
• ติดกับดักล่อแสงหรือล่อกลิ่น (pheromone traps) สำหรับผีเสื้อกลางคืน
สรุป:
การควบคุม ไข่หนอนผีเสื้อ คือการ “จัดการศัตรูพืชตั้งแต่ยังไม่ฟัก” ใช้วิธีชีวภาพ เช่น แตนเบียนและเชื้อ BT ควบคู่กับพืชล่อแมลงและการดูแลใกล้ชิด ช่วยลดหนอนได้มาก โดยไม่ใช้สารเคมีตกค้าง
24 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร