การผสมปุ๋ยเคมีต่างสูตรกัน

การผสมปุ๋ยเคมีต่างสูตรกัน เป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ต้องระวัง เพราะปุ๋ยแต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน การผสมผิดอาจทำให้ปุ๋ยจับตัวเป็นก้อน เสียคุณภาพ หรือกลายเป็นพิษต่อพืช

หลักการพื้นฐานก่อนผสมปุ๋ยเคมี

1. รู้สูตรปุ๋ยก่อนผสม

ปุ๋ยเคมีมีตัวเลขเช่น 15-15-15, 46-0-0, 21-0-0 ฯลฯ ซึ่งหมายถึง

• N (ไนโตรเจน) – เร่งใบ

• P (ฟอสฟอรัส) – เร่งราก/ดอก

• K (โพแทสเซียม) – เร่งผล/ความแข็งแรง

2. รู้วัตถุประสงค์การใช้

• เช่น ต้องการเร่งใบ เร่งดอก บำรุงผล หรือปรับสภาพดิน

3. ดูความเข้ากันได้ของปุ๋ย

• ปุ๋ยบางตัวไม่ควรผสมกัน เพราะอาจเกิดปฏิกิริยาเคมีที่ไม่พึงประสงค์

ปุ๋ยที่ ไม่ควรผสมกัน

ปุ๋ย A ปุ๋ย B เหตุผลที่ไม่ควรผสม
ยูเรีย (46-0-0) แอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) ทำให้เกิดการสูญเสียไนโตรเจนในรูปก๊าซแอมโมเนีย
ยูเรีย ปูนขาว / ปูนโดโลไมต์ ทำให้เกิดก๊าซแอมโมเนียระเหย สูญเสียไนโตรเจน
แอมโมเนียมซัลเฟต ปุ๋ยฟอสเฟต (0-46-0) ทำให้เกิดสารตกตะกอน ฟอสเฟตใช้การไม่ได้
ปุ๋ยฟอสเฟต (เช่น 18-46-0) แคลเซียมไนเตรต เกิดตะกอนแคลเซียมฟอสเฟต ไม่ละลายน้ำ
โพแทสเซียมซัลเฟต (0-0-50) แคลเซียมไนเตรต อาจเกิดตะกอนหรือจับตัวเป็นก้อน
ยูเรีย / แอมโมเนียมไนเตรต น้ำหมักชีวภาพหรือจุลินทรีย์ ค่า pH และแอมโมเนียทำให้จุลินทรีย์ตาย

ตัวอย่างการผสมที่นิยม

• ยูเรีย (46-0-0) + โพแทสเซียมคลอไรด์ (0-0-60) ใช้สำหรับพืชใบและผล (ควรผสมก่อนใช้ อย่าเก็บนาน)

• 15-15-15 + 21-0-0 (แอมโมเนียมซัลเฟต) ใช้ช่วงต้นฤดูปลูก เร่งการเจริญเติบโต

• 16-20-0 + 0-0-60 ให้ธาตุอาหารครบถ้วน เน้นบำรุงราก-ผล

แนวทางการผสมอย่างปลอดภัย

1. ผสมเฉพาะตอนใช้ อย่าเก็บไว้นาน

2. ใช้ถังแห้งและสะอาด ผสมให้เข้ากันดี

3. ผสมปริมาณเล็กน้อยก่อน เพื่อดูผลก่อนใช้จริง

4. ถ้าไม่แน่ใจ อย่าผสมเอง – ใช้ปุ๋ยสูตรสำเร็จดีกว่า

4 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร