ธาตุอาหารในรูปคีเลต

เป็นธาตุอาหารเสริมที่ถูกจับกับสารอินทรีย์พิเศษ เพื่อให้พืชดูดซึมได้ง่ายขึ้น ไม่ตกตะกอน และยังคงเสถียรในดินหรือเมื่อนำไปฉีดพ่นทางใบ

ข้อดีของธาตุอาหารในรูปคีเลต

ข้อดี รายละเอียด
ละลายน้ำดี ไม่ตกตะกอนเมื่อผสมในน้ำหรือปุ๋ยน้ำ
ดูดซึมง่าย พืชสามารถดูดผ่านใบและรากได้รวดเร็ว
เสถียรในดินหลายสภาพ ใช้ได้แม้ในดินเป็นกรดหรือด่าง
ประสิทธิภาพสูง ใช้ในปริมาณน้อยแต่ได้ผลชัดเจน

ธาตุอาหารที่มักอยู่ในรูปคีเลต

ธาตุ รูปคีเลตที่พบบ่อย การใช้
เหล็ก (Fe) Fe-EDTA, Fe-DTPA, Fe-EDDHA ป้องกันใบเหลือง เสริมคลอโรฟิลล์
สังกะสี (Zn) Zn-EDTA เพิ่มการขยายผล เพิ่มภูมิต้านทาน
แมงกานีส (Mn) Mn-EDTA ช่วยสร้างคลอโรฟิลล์ ป้องกันใบด่าง
ทองแดง (Cu) Cu-EDTA เสริมภูมิต้านทาน และโครงสร้างเซลล์
แมกนีเซียม (Mg) Mg-EDTA ช่วยสังเคราะห์แสง
แคลเซียม (Ca) Ca-EDTA (พบน้อย) เพิ่มความแข็งแรงของผนังเซลล์

เปรียบเทียบชนิดของสารคีเลต

คีเลต เหมาะกับ pH ดิน ธาตุที่ใช้ร่วมบ่อย ความเสถียร
EDTA 5.5–6.5 (ดินทั่วไป) Fe, Zn, Mn, Cu ปานกลาง
DTPA 6.0–7.5 Fe, Zn ดีกว่า EDTA
EDDHA 4.0–9.0 (ดินด่างจัด) เฉพาะ Fe ดีที่สุดสำหรับดินด่าง

ตัวอย่างปุ๋ยคีเลตที่มีขายทั่วไป

:: Micronutrient Chelate Mix – รวม Zn, Mn, Cu, Fe แบบ EDTA

:: Fe-EDDHA 6% – สำหรับพืชใบเหลืองจากการขาดธาตุเหล็ก

:: Multi-Chelate / Chelated Trace Mix – ผงละลายน้ำ สำหรับฉีดพ่นหรือใส่ระบบน้ำหยด

วิธีใช้ธาตุคีเลตอย่างปลอดภัย

:: ฉีดพ่นทางใบ: 10–20 กรัม/น้ำ 20 ลิตร สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

:: ระบบน้ำหยด: 0.5–1 กรัมต่อต้น หรือ 1–2 กิโลกรัม/ไร่

:: หลีกเลี่ยงการผสมกับสารที่เป็นด่างแรงหรือฟอสเฟตสูง (อาจตกตะกอน)

:: ตรวจสอบ “ชนิดของคีเลต” บนฉลาก เพื่อให้เหมาะกับสภาพดินของคุณ

43 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร