การขอ GAP สำหรับสวนมะนาว

การขอ GAP (Good Agricultural Practices) สำหรับ สวนมะนาว เป็นการรับรองว่าการผลิตมะนาวของคุณ มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและโอกาสในการขายสินค้า โดยเฉพาะในตลาดที่ต้องการมาตรฐาน เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือตลาดส่งออก

ขั้นตอนการขอ GAP สำหรับสวนมะนาว

1. เตรียมสวนให้ได้ตามหลักเกณฑ์ GAP ตรวจสอบและปรับปรุงสวนมะนาวให้มีมาตรฐานตามหลัก 8 ด้านของ GAP

• ความปลอดภัยของแหล่งน้ำ

• การใช้ปุ๋ยและสารเคมีอย่างเหมาะสม

• การจัดการศัตรูพืชอย่างปลอดภัย

• สุขลักษณะของแรงงาน

• ความสะอาดของผลผลิต

• การเก็บเกี่ยวอย่างถูกต้อง

• การเก็บรักษาและขนส่ง

• การบันทึกข้อมูลทุกขั้นตอน

สิ่งที่ควรมีในสวน ::

• สมุดบันทึกประจำสวน (การใส่ปุ๋ย พ่นยา เก็บเกี่ยว ฯลฯ)

• แหล่งน้ำสะอาด หรือผ่านการกรอง

• ห้องเก็บสารเคมีแยกจากพื้นที่เก็บผลผลิต

• ป้ายชื่อสวน และป้ายเตือนความปลอดภัย

2. ลงทะเบียนขอรับการตรวจประเมิน GAP ติดต่อที่ใดก็ได้ในพื้นที่คุณ เช่น ::

• สำนักงานเกษตรอำเภอ

• สำนักงานเกษตรจังหวัด

• กรมวิชาการเกษตร (DOA)

เอกสารที่ต้องใช้

• สำเนาบัตรประชาชน

• สำเนาทะเบียนบ้าน

• เอกสารยืนยันสิทธิ์ในที่ดิน (โฉนด ส.ป.ก. หรือหนังสือยินยอม)

• แผนผังแปลงปลูก

• ใบคำขอรับรอง GAP (กรอกที่สำนักงานได้เลย)

เจ้าหน้าที่จากกรมวิชาการเกษตรจะนัดเข้าตรวจแปลง โดยพิจารณาตาม มาตรฐาน GAP พืชอาหาร เช่น

• ตรวจแหล่งน้ำ

• ตรวจสวนมะนาวจริง

• ดูเอกสารบันทึกต่างๆ

• ให้คำแนะนำในการปรับปรุงถ้ายังไม่ผ่าน

4. ได้รับใบรับรอง GAP

ถ้าผ่านมาตรฐาน คุณจะได้รับ ใบรับรอง GAP (เลขที่ Q) ซึ่งมีอายุ 1–3 ปี (ขึ้นกับชนิดพืช) สามารถใช้ติดฉลากสินค้า เพิ่มมูลค่า และส่งขายตลาดคุณภาพสูงได้

ข้อดีของการมีใบ GAP สำหรับสวนมะนาว

• เพิ่มความน่าเชื่อถือของผลผลิต

• ส่งขายห้าง หรือตลาดส่งออกได้

• ขายได้ราคาดีกว่า

• เป็นพื้นฐานต่อยอดไปสู่ GAP ระดับสูง หรือเกษตรอินทรีย์

53 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร