“โรคแคงเกอร์” คือโรคประจำสวนมะนาวที่หลายคนรู้จักดี แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะ “จัดการได้ถูกวิธี” บางสวนพ่นยาแล้วไม่หาย ทั้งที่ยาดี สูตรแรง แต่ผลลัพธ์กลับล้มเหลว สาเหตุไม่ใช่เพราะยาไม่ดี แต่เพราะ ใช้ผิดเวลา และผิดจุดประสงค์

1. เข้าใจให้ถูกก่อนว่า “แคงเกอร์” คือโรคแบคทีเรีย

เกิดจากเชื้อ Xanthomonas citri ชอบอากาศชื้น ฝนตก แดดสลับฝน เริ่มจากจุดใสเล็ก ๆ ที่ใบ กลายเป็นจุดนูนสีน้ำตาล แผลทะลุเป็นรู ถ้าไม่หยุด เชื้อจะลามไปกิ่ง-ผล ทำให้ผลแตก ขายไม่ได้

2. การป้องกัน ต้องใช้ “ฟังกูราน (Funguran)” หรือคอปเปอร์ออกซีคลอไรด์

ป้องกันก่อนเกิดโรค เท่ากับเสริมเกราะป้องกันเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ใบ ฟังกูรานเป็นสารคอปเปอร์ที่เคลือบผิวใบไว้ เมื่อมีฝนหรือละอองน้ำตกกระทบ ใบยังมีฟิล์มป้องกันเชื้อโรค ใช้พ่นช่วงอากาศเริ่มชื้น หรือหลังแต่งกิ่งเปิดทรงพุ่ม พ่น 7-10 วัน/ครั้ง ในช่วงเสี่ยงโรค

ข้อควรจำ: ฟังกูราน “ไม่ฆ่าเชื้อ” ที่เกิดแล้ว แต่ช่วย “กันเชื้อไม่ให้เข้าใหม่” ถ้าใบติดโรคแล้ว ต้องเปลี่ยนแนวทางเป็น “กำจัด”

3. การกำจัด ต้องใช้ “แคงเกอร์น็อค” ให้ถูกวิธี

กำจัด คือการทำลายเชื้อที่อยู่ในเนื้อเยื่อพืช แคงเกอร์น็อคเป็นสารผสมที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียโดยตรง ใช้พ่นเฉพาะช่วงที่เริ่มพบใบมีจุดแคงเกอร์ใหม่ ๆ พ่นทุก 5-7 วัน ติดต่อกัน 2-3 ครั้ง ควรตัดแต่งใบและกิ่งที่เป็นโรคออกก่อนพ่นทุกครั้ง

เคล็ดลับ: พ่นตอนแดดอ่อนหรือตอนเย็น เพื่อให้สารอยู่บนใบได้นาน หากฝนตกหลังพ่น ควรพ่นซ้ำภายใน 24 ชั่วโมง

4. ทุกอย่างจะได้ผล เมื่อ “ต้นมะนาวแข็งแรง”

ไม่มีสารใดป้องกันแคงเกอร์ได้ถ้าต้นไม่สมบูรณ์ เพราะต้นอ่อนแอ ใบอ่อนช้ำง่าย เชื้อเข้าสู่ใบได้ง่าย ดังนั้นควรดูแลพื้นฐานให้ครบ ดินโปร่ง มีอินทรีย์วัตถุ มีการระบายน้ำดี ไม่ขัง เสริมธาตุแคลเซียม-โบรอน-สังกะสี เพื่อให้ผิวใบหนา แต่งกิ่งโปร่ง ลดความชื้นสะสม

สรุป

ฟังกูราน ใช้ในการป้องกัน และแคงเกอร์น็อค ใช้ในการกำจัดกำจัด แต่ทั้งคู่จะไม่ช่วยอะไร…ถ้าต้นมะนาวไม่แข็งแรง

39 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร