การเร่งรากมะนาวหรือพืชตระกูลส้มให้ได้ผลดี (ใช้ฉีดพ่นทางในของกิ่งตอน) ไม่ใช่แค่เลือกน้ำยาเร่งรากยี่ห้อดัง แต่ต้อง เลือกใช้ให้เหมาะกับฤดูกาล เพราะอุณหภูมิและสภาพแวดล้อมมีผลโดยตรงต่อ “การทำงานของฮอร์โมนและการสร้างรากใหม่”

ฤดูร้อน (มีอุณหภูมิสูง 30-38°C)

• พืชมีการหายใจสูง รากดูดน้ำได้ดี

• เหมาะกับการใช้น้ำยาเร่งราก สูตรอ่อน เช่น IBA 500-1,000 ppm หรือ NAA อัตราต่ำ

• เสริมกรดอะมิโน + วิตามิน B1 จะช่วยลดความเครียดของราก

• หลีกเลี่ยงการใช้ความเข้มข้นสูง เพราะรากอาจไหม้หรือตายปลายได้

คำแนะนำ: ควรพ่นหรือลดอุณหภูมิดินก่อนรดน้ำยาเร่งรากในช่วงเย็น (กรณีย์พ่นทางดินมะนาวปลูกใหม่ หรือชำลงถุง)

ฤดูฝน (ความชื้นสูง ดินชื้นจัด)

• ระบบรากอาจเน่าได้ง่าย ต้องเลือกน้ำยาเร่งรากที่มี สารป้องกันเชื้อรา หรือผสม ฟอสฟอรัส (P)

• สูตรที่เหมาะ: น้ำยาเร่งรากที่มี ฟอสฟอริกแอซิด (H₃PO₄) หรือ กรดฮิวมิค ช่วยระบายอากาศในดินและกระตุ้นรากใหม่

• ใช้ความเข้มข้นปานกลาง และเน้น “ฉีดพ่นทางใบ” แทนการรดลงดินโดยตรง

คำแนะนำ: ควบคุมความชื้นในบ่อหรือแปลงให้ดี และอย่าฉีดช่วงฝนกำลังจะตก(กรณีย์พ่นทางดินมะนาวปลูกใหม่ หรือชำลงถุง)

ฤดูหนาว (อุณหภูมิต่ำกว่า 25°C)

• การเจริญของรากช้าลงตามธรรมชาติ

• เหมาะกับน้ำยาเร่งรากที่มี กรดอะมิโน + ฮิวมิค + ไคโตซาน ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อและเพิ่มภูมิต้านทาน

• หลีกเลี่ยงสูตรที่มีฮอร์โมนสังเคราะห์เข้มข้น เพราะพืชดูดซึมได้น้อย

คำแนะนำ: พ่นช่วงแดดอ่อน (สายๆ) เพื่อให้ดูดซึมได้ดี (กรณีย์พ่นทางดินมะนาวปลูกใหม่ หรือชำลงถุง)

สรุปการเลือกใช้ตามฤดูกาล

สรุป

น้ำยาเร่งรากไม่ได้มีสูตรตายตัว ต้องปรับให้เหมาะกับ “ฤดู ดิน และสภาพต้น” ต้นแข็งแรง ทำให้รากแข็งแรง และระบบรากที่ดีคือจุดเริ่มต้นของผลผลิตที่ยั่งยืน

4.9k @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร