เมื่อแคงเกอร์ระบาดหนักใช้คอปเปอร์จะได้ผลหรือไม่

เป็นประเด็นใหญ่ ที่ชาวสวนมะนาวหลายคน เข้าใจคลาดเคลื่อนกันอยู่พอสมควร ผมขออธิบายให้ชัดเป็นลำดับนะครับ เมื่อ โรคแคงเกอร์ระบาดหนัก “คอปเปอร์” ยังช่วยได้ไหม? คำตอบคือ... “ช่วยได้ บางส่วนเท่านั้น แต่ไม่สามารถหยุดโรคได้ทั้งหมด”

เหตุผลทางวิชาการ

คอปเปอร์ (Copper-based compound) เช่น คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ (Copper oxychloride) คอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ (Copper hydroxide) คอปเปอร์ซัลเฟต (Copper sulfate) เป็น “สารป้องกัน” ไม่ใช่ “สารรักษา”

หมายความว่า มันทำหน้าที่ เคลือบผิวใบและกิ่ง เพื่อยับยั้งเชื้อไม่ให้เข้าทำลาย แต่ ถ้าเชื้อแคงเกอร์เข้าผิวใบไปแล้ว คอปเปอร์ไม่สามารถฆ่าเชื้อในเนื้อเยื่อได้

ดังนั้นเมื่อโรคระบาดหนัก

• ใบและกิ่งที่มีแผลแคงเกอร์มากอยู่แล้ว จะกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อ

• เชื้อสามารถกระจายต่อได้ทุกครั้งที่มีลมแรงหรือฝนสาด

• ต่อให้พ่นคอปเปอร์ถี่ ก็แค่ “หยุดเชื้อบางส่วน” บนใบใหม่ ไม่ได้ช่วยใบเก่า

วิธีจัดการที่ได้ผลจริง

• ตัดแต่งกิ่งและใบที่เป็นโรคออกจากสวนทันที ทำลายโดยการฝังหรือเผา อย่าทิ้งรวมกับเศษใบทั่วไป

• พ่นคอปเปอร์ต่อเนื่องหลังตัดแต่ง เพื่อเคลือบแผลสดและใบที่เหลือ ป้องกันเชื้อซ้ำ

• เว้นช่วงฝนตก พ่นในวันที่แห้ง ไม่มีลมแรง เพราะถ้าฝนตกภายใน 6 ชม. หลังพ่น ยาจะถูกชะล้างหมด

• เสริมภูมิคุ้มกันต้นด้วยสารชีวภาพหรือธาตุรอง เช่น ซิลิกา, แคลเซียม-โบรอน, สังกะสี, ฟอสฟอรัส ช่วยให้ผนังเซลล์ใบแข็งแรง ต้านการเข้าทำลายของเชื้อ

• ควบคุมหนอนชอนใบอย่างเคร่งครัด เพราะแผลจากหนอนเป็น “ประตูเปิด” ให้เชื้อแคงเกอร์เข้าได้ง่ายมาก

• หลังควบคุมโรคได้แล้ว ควรพ่นคอปเปอร์แบบเชิงป้องกันเดือนละ 1-2 ครั้ง โดยเฉพาะหลังฝนหรือหลังตัดแต่งกิ่ง

สรุป

ถ้าแคงเกอร์ “ระบาดแล้ว” คอปเปอร์ “ช่วยชะลอ” ได้ แต่ “ไม่รักษา” ถ้า “ยังไม่ระบาด” ใช้คอปเปอร์ “ป้องกันได้ดีที่สุด”

97 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร