ขั้นตอนการเกิดรากเน่าจากน้ำขัง

เข้าใจให้ลึก แล้วจะป้องกันได้ตรงจุด ต้นมะนาวที่ปลูกลงดิน หากบริเวณโคนต้นมีน้ำขังบ่อยๆ จะเกิดปัญหารากเน่า ซึ่งเป็นโรคที่ “เงียบแต่รุนแรง” เพราะมักเริ่มจากใต้ดิน ก่อนที่เราจะเห็นอาการภายนอก เช่น ใบเหลือง ต้นโทรม หรือตายทั้งต้น

ขั้นตอนการเกิดรากเน่า

1. ดินอิ่มน้ำ ออกซิเจนหาย

เมื่อฝนตกหนักหรือน้ำขังในแปลงนาน ดินจะอิ่มน้ำ ช่องอากาศในดินหายไป รากมะนาวจึงขาดออกซิเจน ทำให้ “การหายใจของรากหยุดชะงัก”

2. รากเริ่มช้ำและตายบางส่วน

ปลายรากที่ดูดอาหารจะเริ่มเน่าเป็นสีน้ำตาลเข้ม เซลล์รากถูกทำลายจากสภาวะขาดอากาศ และเกิดการสะสมของของเสียภายใน

3. เชื้อราเข้าทำลาย (เชื้อ Phytophthora/Pythium)

เชื้อเหล่านี้จะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแฉะหรืออับน้ำ มันจะเข้าทำลายจากรากที่ช้ำหรือเริ่มตายอยู่แล้ว ทำให้รากเน่าลามขึ้นสู่โคนต้น

4. ระบบรากเสียสมดุล การดูดน้ำและอาหารลดลง

เมื่อลำต้นได้รับน้ำและธาตุอาหารไม่เพียงพอ ใบจะเหลือง เริ่มร่วง และยอดแห้งปลาย หากไม่ได้แก้ไขทันเวลา ต้นจะค่อยๆ เหี่ยวและตายลง

5. กลิ่นเน่าขึ้นจากโคนต้น

ในขั้นรุนแรง จะมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว หรือกลิ่นคล้ายดินเปียกเน่าขึ้นจากโคนต้น หากขุดดูจะเห็นรากสีน้ำตาลเข้ม ลอกเปลือกออกง่าย เนื้อในยุ่ย

แนวทางป้องกัน

ยกแปลงปลูกให้สูง ระบายน้ำดี อย่าให้โคนต้นน้ำขังเกิน 24 ชั่วโมง ใส่อินทรีย์วัตถุที่ช่วยพัฒนาดินให้โปร่ง เช่น แกลบเก่า ฮิวมัส พ่นหรือราดเชื้อไตรโคเดอร์มาป้องกันเชื้อราในดิน หากเริ่มพบอาการ ให้เปิดโคนต้นให้โล่ง ตัดรากเน่าทิ้ง และใช้สารป้องกันเชื้อราเฉพาะทาง

สรุป

“รากเน่าไม่ใช่เกิดจากเชื้อราอย่างเดียว แต่เริ่มจาก ‘ดินอมน้ำ’ ก่อนเสมอ” ถ้าควบคุมน้ำได้ดี เชื้อราก็ไม่มีโอกาสได้ทำลายต้นมะนาวของคุณ

10.8k @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร