เน้นปุ๋ยเคมีผนังเซลล์อ่อนแอแคงเกอร์มา

การเน้นใช้ปุ๋ยเคมี เป็นเหตุให้ผนังเซลล์อ่อนแอ และแคงเกอร์เข้าทำลายได้ง่ายมาก คำนี้ ตรงประเด็นมากสำหรับสวนมะนาว! “มะนาวที่ได้รับปุ๋ยเคมีมากเกินไป ผนังเซลล์จะอ่อนแอ และโรคแคงเกอร์จะเข้าทำลายง่ายขึ้น” มาดูเหตุผลเชิงลึกทางสรีรวิทยาและแนวทางป้องกันครับ

1. สาเหตุหลัก ปุ๋ยเคมีมาก ผนังเซลล์อ่อนแอ

โดยเฉพาะ ไนโตรเจน (N) จากยูเรีย หรือแอมโมเนียมไนเตรต เมื่อให้ในปริมาณสูงและถี่เกินไป จะทำให้เกิดผลดังนี้

ผลจากไนโตรเจนมากเกิน ผลกระทบต่อโรคแคงเกอร์
ใบ ยอดอ่อนขยายตัวเร็วมาก ผนังเซลล์ยังไม่แข็งตัวดี บาดแผลเล็กๆ ตามใบเกิดง่าย
เซลล์ผิวมีน้ำในเนื้อเยื่อสูง ความชื้นสูงในใบเอื้อต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย Xanthomonas citri
อัตราการคายน้ำสูง ทำให้เกิดจุดแผลเล็กๆ ที่เชื้อแคงเกอร์แทรกเข้าได้
ความสมดุลระหว่าง N-Ca-B เสีย ผนังเซลล์ขาดแคลเซียม-โบรอนที่ช่วยยึดเกาะเซลล์ให้แข็งแรง

ผลลัพธ์คือ “ใบอ่อนช้ำ แผลจุดน้ำมัน และเชื้อแคงเกอร์เข้าทางช่องเปิด” เกิดระบาดหนักโดยเฉพาะหลังฝนตกหรือมีน้ำค้างแรง

2. กลไกเชื้อโรคแคงเกอร์

เชื้อ Xanthomonas citri subsp. citri ชอบสภาพ ใบอ่อน/ยอดอ่อนที่ยังไม่แข็ง มีน้ำเกาะใบ (ฝนหรือน้ำค้าง) ลมพัดแรงพาเชื้อจากใบติดใบ ดังนั้นถ้าต้นมะนาว “แตกยอดบ่อยเกินไปเพราะปุ๋ยเคมีมาก” จะมีใบอ่อนให้เชื้อเข้าได้เรื่อย ๆ วนระบาดไม่หยุด

3. แนวทางป้องกันและปรับสมดุล

ปรับสูตรปุ๋ยเคมี ลดการใช้สูตร N สูง เช่น 21-0-0, 46-0-0 ใช้ สูตรสมดุลหรือเน้น K, Ca, Mg เช่น 15-5-20, 13-13-21, 12-12-17+2Mg เติม แคลเซียม-โบรอน-ซิลิกา (Ca+B+Si) เพื่อเสริมความแข็งแรงผนังเซลล์

เพิ่มอินทรียวัตถุ ใส่ ปุ๋ยคอกเก่า+แกลบดำ+ฮิวมิค ทุก 2-3 เดือน เพิ่มความอุ้มน้ำและธาตุรอง ลดการชะล้างไนโตรเจน ส่งผลให้ใบหนา ผิวใบมัน แข็งแรงต่อโรค

ควบคุมการแตกยอด ถ้าใบเพิ่งแตก อย่าฉีดพ่นหรือให้ไนโตรเจนเพิ่ม รอให้ใบแก่ก่อนค่อยบำรุงด้วยอาหารเสริม

ฉีดพ่นเสริมภูมิต้านทาน พ่น คอปเปอร์+ซิลิกา+แคลเซียม-โบรอน+สาหร่ายทะเล ช่วยให้ผนังเซลล์หนา และต้านเชื้อแคงเกอร์ตามธรรมชาติ ใช้ช่วงยอดเริ่มแก่ ไม่ต้องพ่นบ่อย

สรุป

“ปุ๋ยเคมีมากเกิน จะแตกยอดถี่ ทำให้ใบอ่อนนิ่ม ผนังเซลล์บาง แคงเกอร์เข้าทำลายง่าย” จึงควร เน้นสมดุล ให้มีทั้งเคมี (พอดี)+อินทรีย์ + ธาตุรอง เพื่อให้ใบมะนาวแข็ง ผิวมัน แคงเกอร์เจาะไม่เข้า

152 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร