มะนาววงบ่อเปิดก้นไม่ระบายน้ำ
ถ้า มะนาววงบ่อเปิดก้นแล้วไม่ระบายน้ำได้ดี ปัญหานี้ถือว่า “อันตรายเงียบ” สำหรับสวนมะนาว เพราะระบบรากของมะนาวไวต่อสภาวะน้ำขังมากที่สุดในพืชตระกูลส้มทั้งหมด โดยเฉพาะการวางวงบ่อบนพื้นดินถม หรือดินแน่น
ผลเสียเมื่อวงบ่อเปิดก้นแต่ไม่ระบายน้ำ
1. รากขาดอากาศ (Oxygen deficiency)
น้ำขังในดินทำให้ช่องอากาศในดินหายไป รากไม่สามารถหายใจได้ จึงเกิดอาการรากดำ รากเน่า ต้นทรุดภายในไม่กี่วัน
2. เชื้อราในดินระบาด
ความชื้นสูงกระตุ้นเชื้อรา Phytophthora และ Pythium ทำให้เกิดโรครากเน่า-โคนเน่า ใบเหลืองซีด หลุดร่วงง่าย
3. ธาตุอาหารเคลื่อนที่ไม่ได้
โดยเฉพาะ ไนโตรเจน-แคลเซียม-แมกนีเซียม เมื่อดินอิ่มน้ำ ธาตุไม่เข้าสู่ราก ทำให้ใบซีด ยอดชะงัก
4. ระบบรากฝอยหยุดเจริญ
รากใหม่ไม่เกิด และรากเดิมเน่า ต้นอาจรอดแต่ไม่แตกยอดอีก
วิธีตรวจสอบว่า “ระบายน้ำไม่ดี”
หลังฝนตก 2-3 วัน ถ้าดินในบ่อยังชื้นแฉะ แสดงว่า “ระบายไม่ดี” ใช้เหล็กแทงดินลึก 20-30 ซม. ถ้าดึงขึ้นแล้วดินติดแน่น แสดงว่ามีชั้นดินแน่นอัด มะนาวเริ่มมีใบเหลืองเฉพาะบางบ่อในพื้นที่ต่ำ
แนวทางแก้ไข
1. ปรับปรุงระบบระบายน้ำ
ขุด ร่องระบายน้ำรอบแปลง ยกบ่อให้สูงจากระดับดินรอบข้างอย่างน้อย 20-30 ซม. เติมหินเบา ดินร่วนปนทราย หรือเศษอิฐแตกที่ก้นบ่อ
2. ใช้วัสดุช่วยพรุน
ใส่ ฮิวมิค-มูลไส้เดือน-ขี้ไก่แห้งบด ช่วยให้ดินโปร่ง พ่น จุลินทรีย์สลายอินทรีย์ (EM) เป็นระยะเพื่อลดกลิ่นอับในดิน
3. ดูแลช่วงฟื้นฟูหลังน้ำขัง
รอให้ดินแห้งก่อนให้น้ำรอบใหม่ พ่นทางใบด้วย แมกนีเซียม + แคลเซียม + ฮิวมิคเจือจาง เพื่อกระตุ้นยอด หลีกเลี่ยงการให้ปุ๋ยเคมีทันทีหลังน้ำขัง
สรุปแนวคิด
“วงบ่อเปิดก้นดีต้องระบายน้ำได้เร็ว” ถ้าเปิดก้นแต่ไม่มีทางออกให้น้ำ ดีกว่าปิดก้นไม่มาก ดังนั้น “การระบายน้ำ” สำคัญกว่าการ “เปิดก้นบ่อ” เสียอีก
3.4k @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร