ดอกมะนาวช่วงที่มี น้ำค้างหนัก (โดยเฉพาะปลายฝนต้นหนาว หรืออากาศเย็นกลางคืน) เป็นช่วงที่ค่อนข้างอ่อนไหวมากครับ เพราะทั้ง ความชื้นสูง + อุณหภูมิต่ำ ส่งผลต่อทั้งการผสมเกสรและการติดผลโดยตรง

ผลกระทบของน้ำค้างหนักต่อดอกมะนาว

1. ดอกเปียกชื้นนาน

• ทำให้เกสรตัวผู้เสื่อมเร็ว ละอองเกสรไม่ฟู ผสมไม่ติด

• เกสรตัวเมียอุ้มน้ำ ไม่รับละอองเกสร

2. เชื้อราระบาดง่าย

• โดยเฉพาะ ราสนิม ราสีชมพู และแอนแทรคโนส ทำให้ดอกดำและร่วง

3. ดอกและผลอ่อนร่วงมาก

• เพราะท่ออาหารที่เชื่อมกับผลอ่อนอาจถูกเชื้อเข้าทำลาย

• หรือดอก/ผลขาดพลังงานจากการสังเคราะห์แสง (เช้าอากาศเย็น หมอกคลุม แดดออกช้า)

4. การเคลื่อนย้ายน้ำตาลไปเลี้ยงดอกติดขัด

• เพราะกลางคืนยาวและมีน้ำค้าง การหายใจของดอกสูงขึ้น แต่พลังงานผลิตกลางวันน้อย

แนวทางจัดการดอกมะนาวช่วงน้ำค้างหนัก

1. เสริมแคลเซียม + โบรอน (Ca + B)

• ฉีดพ่นทางใบ/ดอกก่อนบานและหลังบานเล็กน้อย ช่วยให้เกสรแข็งแรง ดอกติดผลดี

2. ป้องกันเชื้อรา

• พ่นสารคอปเปอร์ หรือชีวภัณฑ์ไตรโคเดอร์มา/บาซิลลัส ช่วงเริ่มมีช่อดอก

• เลี่ยงการใช้สารเคมีแรง ๆ ตอนดอกบาน เพราะอาจทำให้เกสรเสียหาย

3. เสริมอาหารทางใบ

• ใช้โปแตสเซียมไนเตรท (KNO₃) หรือกรดอะมิโน ฉีดบาง ๆ ช่วยเพิ่มพลังงานให้ดอก

4. จัดการสวนให้โปร่ง

• ตัดแต่งกิ่ง ลดความชื้นสะสม

• พยายามให้อากาศถ่ายเทในช่วงเช้า น้ำค้างระเหยเร็ว

5. ให้น้ำอย่างพอดี

• ถ้าดินชื้นเกินไป + น้ำค้างหนัก เสี่ยงเชื้อรารากเน่า ควรให้น้ำแบบควบคุม ไม่ให้แฉะ

สรุป: ช่วงดอกมะนาวเจอน้ำค้างหนัก ต้องเน้น กันเชื้อรา + เสริม Ca–B + โพแทสเซียม เพื่อช่วยให้ดอกติดผลดี และลดการร่วง

10 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร