การใช้แคลเซี่ยมต้านโรค

แคลเซี่ยม สำคัญกับมะนาวและ พืชผลไม้หลายชนิด เพราะ แคลเซียม (Ca) ไม่ใช่แค่ธาตุอาหารเสริม การเจริญเติบโต แต่ ยังมีบทบาทโดยตรงในการต้านทานโรคพืช

กลไกการต้านโรคของแคลเซียม

1. เสริมสร้างผนังเซลล์แข็งแรง

• แคลเซียมช่วยเชื่อม เพคติน (pectin) ในผนังเซลล์ เซลล์เหนียวแน่น แข็งแรง

• ทำให้เชื้อโรค (เชื้อรา/แบคทีเรีย) เจาะทะลายเข้าได้ยากขึ้น

2. ลดการรั่วไหลของน้ำเลี้ยง

• เมื่อผนังเซลล์แข็งแรง น้ำเลี้ยงไม่รั่วซึม เชื้อโรคขาดแหล่งอาหาร การลุกลามช้าลง

3. ช่วยให้แผลหายเร็ว

• หลังจากตัดแต่งกิ่ง หรือใบถูกทำลาย แคลเซียมช่วยเร่งการสร้าง callose และ lignin ปิดแผลไวขึ้น

4. ยับยั้งเอนไซม์ของเชื้อโรค

• เชื้อโรคบางชนิดปล่อยเอนไซม์มาย่อยผนังเซลล์พืช (pectinase)

• เมื่อมี Ca²⁺ มาจับกับเพคติน เอนไซม์ทำงานยากขึ้น ลดความรุนแรงของโรค

ตัวอย่างโรคในมะนาวที่แคลเซียมช่วยลดความรุนแรง

• โรคแคงเกอร์ แผลลุกลามช้าลง

• โรครากเน่าโคนเน่า รากแข็งแรง ฟื้นตัวไวขึ้น

• โรคผลแตก เปลือกผลแน่น ไม่ช้ำง่าย

วิธีการใช้แคลเซียมต้านโรค

1. ปรับดิน

• ใช้ ปูนโดโลไมต์ / ปูนขาว / ยิปซัม เพิ่ม Ca ในดิน + ปรับ pH ไม่ให้เป็นกรดจัด (โรคชอบดินกรด)

2. ทางใบ

• พ่นแคลเซียม-โบรอน (Ca-B) ช่วงใบอ่อน ใบแข็งแรง ไม่ช้ำ ไม่เป็นจุดสีน้ำตาลง่าย

• พ่นแคลเซียมคลอไรด์ (CaCl₂) หรือแคลเซียมไนเตรต (Ca(NO₃)₂) เสริมผนังเซลล์ตรงจุด

3. ทางราก

• ใส่ ปุ๋ยแคลเซียมไนเตรต ได้ทั้งไนโตรเจนที่ดูดง่าย และแคลเซียมสำหรับโครงสร้าง

สรุป

แคลเซียมไม่ใช่ยาเชื้อรา แต่เป็น เกราะป้องกันเชิงกายภาพ + เสริมภูมิคุ้มกันพืช ถ้าแคลเซียมเพียงพอ มะนาวจะ “แข็งแรงต้านทาน” ไม่ใช่ “ต้องรักษา”

7 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร