การเคลื่อนที่ของฟอสฟอรัสในดิน

การเคลื่อนที่ของฟอสฟอรัส (P) ในดินถือว่าช้ามากเมื่อเทียบกับไนโตรเจนหรือโพแทสเซียม เพราะ P มีปฏิกิริยากับอนุภาคดินและแร่ธาตุรอบข้างได้ง่าย ทำให้เกิดการตรึง (fixation) จนอยู่ในรูปที่พืชดูดใช้ไม่ได้

1. ลักษณะการเคลื่อนที่

• ฟอสฟอรัสในดินส่วนใหญ่จะเคลื่อนที่โดย การแพร่ (diffusion) ไม่ใช่การไหลตามน้ำ (mass flow) เหมือนไนโตรเจน

• ระยะเคลื่อนที่ในดินโดยทั่วไปเพียง มิลลิเมตรต่อปี เช่น ในดินเหนียวอาจเคลื่อนที่ได้เพียง 1–2 มม./ปี

• พืชจึงดูด P ได้เฉพาะในบริเวณใกล้ผิวรากเท่านั้น

2. ปัจจัยที่จำกัดการเคลื่อนที่

1. การตรึงฟอสฟอรัส

• ในดินกรด P จับกับ Fe³⁺ และ Al³⁺ เกิดเป็นสารประกอบไม่ละลายน้ำ

• ในดินด่าง P จับกับ Ca²⁺ กลายเป็นแคลเซียมฟอสเฟตที่ละลายยาก

2. เนื้อดิน

• ดินเหนียว อนุภาคมาก พื้นที่ผิวมาก จับ P ได้มาก เคลื่อนที่ช้า

• ดินทราย จับ P ได้น้อย เคลื่อนที่ได้ไกลกว่าเล็กน้อย

3. อินทรียวัตถุ

• อินทรียวัตถุช่วยจับโลหะ Fe/Al/Ca และปล่อย P ออกมา จึงเพิ่มการเคลื่อนที่

4. ความชื้นดิน

• ความชื้นสูง การแพร่เร็วขึ้น

• ดินแห้ง P เคลื่อนที่แทบไม่ได้

3. ผลต่อการให้ปุ๋ย

• ต้องใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัส ใกล้โซนราก เพราะ P ไม่เคลื่อนที่ไกล

• การใส่แบบ หว่านผิวดิน อาจทำให้รากใช้ได้เพียงบางส่วน โดยเฉพาะในดินเหนียว

• เหมาะกับการ ฝังปุ๋ยเป็นแถวหรือหลุม ให้ใกล้รากมากที่สุด

• การรักษาค่า pH ดินให้อยู่ 6.0–6.5 จะช่วยให้ P อยู่ในรูปที่ละลายง่าย และเคลื่อนที่ได้มากขึ้น

4. ความต่างกับธาตุอื่น

• N (ไนโตรเจน) เคลื่อนที่ได้หลายเมตรต่อปี เพราะละลายน้ำและไหลไปกับน้ำ

• K (โพแทสเซียม) เคลื่อนที่ได้มากกว่า P แต่ยังน้อยกว่า N

• P (ฟอสฟอรัส) เคลื่อนที่ช้าที่สุดในบรรดาธาตุหลัก

17 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร