ความชื้นในดินและปริมาณน้ำ
ความชื้นในดินและปริมาณน้ำเป็นสองปัจจัยที่สัมพันธ์กันโดยตรง และเป็นหัวใจของการดูแลมะนาวให้ได้ผลผลิตดี เพราะถ้าสมดุลไม่เหมาะสม ทั้งรากและการออกดอกติดผลจะเสียหายได้
1. ความชื้นในดินคืออะไร
คือ ปริมาณน้ำที่เก็บอยู่ในช่องว่างของดิน ระหว่างอนุภาคดินและอินทรียวัตถุ แบ่งได้ 3 ระดับสำคัญ
• ความชื้นอิ่มตัว (Saturation) – น้ำเต็มทุกช่องว่างในดิน รากขาดอากาศง่าย
• ความชื้นเหมาะสม (Field capacity) – มีทั้งน้ำและอากาศพอเหมาะ รากดูดน้ำได้ดีที่สุด
• จุดเหี่ยวถาวร (Permanent wilting point) – น้ำเหลือน้อยเกินไป พืชเหี่ยวและฟื้นยาก
2. ปริมาณน้ำที่เหมาะสมกับมะนาว
มะนาวชอบดิน ชื้นสม่ำเสมอแต่ไม่แฉะ ความชื้นในดินควรอยู่ประมาณ 60–80% ของ field capacity ปริมาณน้ำขึ้นกับเนื้อดิน:
• ดินทราย รดถี่ขึ้น ปริมาณต่อครั้งน้อย
• ดินร่วน รดปานกลาง
• ดินเหนียว รดห่างขึ้น ปริมาณต่อครั้งมากกว่า แต่ต้องระวังน้ำขัง
3. วิธีตรวจความชื้นในดิน
• มือสัมผัส: บีบดินแล้วแตกง่าย = แห้งเกินไป, บีบแล้วจับตัวแต่ไม่เปียกมือ = เหมาะสม
• แท่งวัดความชื้น (Soil moisture meter) – อ่านค่าเป็น % ได้แม่นยำ
• การสังเกตต้น: ใบอ่อนเหี่ยวตอนบ่าย แต่ฟื้นตอนเย็น = ดินเริ่มขาดน้ำ
4. ความสัมพันธ์ระหว่างความชื้นกับมะนาว
ความชื้น | ผลต่อมะนาว |
---|---|
ต่ำเกินไป | รากดูดน้ำยาก ใบเหี่ยว ดอกและผลร่วง |
เหมาะสม | การดูดน้ำและธาตุอาหารดี ใบเขียวสด ผลโต |
สูงเกินไป | รากขาดอากาศ เสี่ยงโรครากเน่า และธาตุอาหารในดินละลายออกมากเกิน |
5. เทคนิคการจัดการ
• ใช้ ระบบน้ำหยด คุมปริมาณแม่นยำ ลดการสูญเสียน้ำ
• คลุมโคน (Mulching) ด้วยฟางหรือวัสดุอินทรีย์เพื่อลดการระเหย
• รดน้ำตอนเช้าหรือตอนเย็น เพื่อให้การสูญเสียน้ำน้อยที่สุด
16 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร