ระบบรากแก้ว vs ระบบรากฝอย
ระบบรากแก้ว (Taproot system) และ ระบบรากฝอย (Fibrous root system) เป็น 2 รูปแบบของระบบรากพืชที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งในด้านโครงสร้าง หน้าที่ และชนิดของพืชที่พบ
1. ระบบรากแก้ว (Taproot System)
ลักษณะเด่น:
• มีรากหลัก (แกนกลาง) ชัดเจน เรียกว่า รากแก้ว
• รากแก้วแทงลึกลงดิน และจะมีรากแขนงแตกออกด้านข้าง
• มักพบในพืชใบเลี้ยงคู่ (dicot)
หน้าที่:
• เจาะลึกเพื่อดูดน้ำและแร่ธาตุจากชั้นลึก
• ช่วยยึดพืชให้มั่นคง
• บางชนิดใช้สะสมอาหาร (เช่น แครอท หัวผักกาด)
ตัวอย่างพืช:
• มะม่วง
• มะขาม
• แครอท
• หัวผักกาด
• มะละกอ (ระยะแรก)
2. ระบบรากฝอย (Fibrous Root System)
ลักษณะเด่น:
• ไม่มีรากหลักชัดเจน
• รากแตกกระจายออกจากโคนต้นเป็นฝอยจำนวนมาก
• เจริญใกล้ผิวดิน แผ่กว้างแต่ไม่ลึก
• พบมากในพืชใบเลี้ยงเดี่ยว (monocot)
หน้าที่:
• ดูดซับน้ำและแร่ธาตุจากผิวดินอย่างรวดเร็ว
• ยึดหน้าดิน ป้องกันการพังทลายของดิน
ตัวอย่างพืช:
• ข้าว
• หญ้า
• ขิง
• ข่า
• หอม กระเทียม
เปรียบเทียบ
รายการ | รากแก้ว | รากฝอย |
---|---|---|
ประเภทพืชที่พบ | ใบเลี้ยงคู่ | ใบเลี้ยงเดี่ยว |
ความลึกของราก | ลึก | ตื้น |
ลักษณะเด่น | มีรากหลัก | รากจำนวนมาก ขนาดใกล้เคียงกัน |
ความสามารถในการเก็บน้ำลึก | ดีมาก | ต่ำ |
ความสามารถในการยึดหน้าดิน | ปานกลาง | ดีมาก |
18 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร