ระบบรากของมะนาวปลูกใหม่

ระบบรากของ “ต้นมะนาวปลูกใหม่” (โดยเฉพาะในช่วง 1–4 เดือนแรก) มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความแข็งแรงและการตั้งตัวของต้น เพราะรากคือ “หัวใจของการดูดซึมและการตั้งทรงพุ่ม” หากรากเดินดี ต้นจะแตกใบใหม่เร็ว พุ่มจะแน่น การออกดอกติดผลในอนาคตจะดีตามมา

ระบบรากของมะนาวปลูกใหม่แบ่งได้ 2 ส่วนหลัก

1. รากแก้ว (Tap Root)

• มีเฉพาะต้นเพาะเมล็ด

• จะงอกลึกลงดิน ทำหน้าที่ยึดลำต้น

• หากเป็นต้นตอนหรือเสียบยอด(รากแก้วขดถูกตัดออก) จะไม่มีรากแก้ว แต่มีรากแขนงแทน

2. รากแขนง (Lateral Roots / รากฝอย)

• มีมากบริเวณผิวดินลึกประมาณ 5–30 ซม.

• ทำหน้าที่ดูดน้ำและธาตุอาหาร

• เป็นรากที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในระยะแรกของการปลูก

ลักษณะระบบรากในช่วง 1–4 เดือนแรก

ช่วงอายุ ลักษณะราก ความต้องการ
0–1 เดือน รากเริ่มแทงรอบตุ้มดิน ความชื้นสูง, ดินร่วน, อากาศดี
1–2 เดือน รากเริ่มแผ่กว้าง 15–30 ซม. ต้องการแคลเซียม, ฟอสฟอรัส
2–4 เดือน รากฝอยเริ่มมาก-เดินทั่ววงราก ควรเสริมจุลินทรีย์ราก, กรดฮิวมิค

การส่งเสริมระบบรากให้เดินเร็ว

1. ใช้วัสดุปลูกโปร่ง-ร่วนซุย

• ดินร่วนผสมแกลบดำ + ปุ๋ยคอกเก่า + ขุยมะพร้าว

• หากปลูกในวงบ่อ ควรมีรูระบายน้ำดี

2. กระตุ้นรากด้วยน้ำหมักหรือสารธรรมชาติ

• น้ำหมักราก: ถั่ว+กล้วย, น้ำมะพร้าว, ขี้เถ้า+EM

• กรดฮิวมิค, ฟุลวิค ช่วยแยกรากฝอย

• แคลเซียม-โบรอน ช่วยให้รากไม่ช้ำ แตกปลายได้ดี

3. ควบคุมความชื้นในระดับพอเหมาะ

• ดินชื้นแบบหมาด ๆ ตลอด 2 สัปดาห์แรก

• อย่าให้น้ำขัง หรือแฉะ รากจะเน่า

4. อย่าเร่งปุ๋ยมากในช่วงแรก

• หลีกเลี่ยงปุ๋ยเคมีเข้มข้นใน 1 เดือนแรก

• ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ละลายช้า เช่น มูลไก่+แกลบดำ

สัญญาณที่บอกรากไม่เดิน

อาการของต้นมะนาว ความเสี่ยงระบบราก
ใบซีด ไม่แตกยอด รากฝอยยังไม่เดิน
ใบเหี่ยวตอนแดดออก รากดูดน้ำไม่ทัน
ยอดเฉา หยุดโต รากถูกทำลาย, ดินแน่น
มีราขาวในดิน ดินอับ อากาศไม่ถ่ายเท

เทคนิคเพิ่มเติม

• ปลูกลึกระดับเดียวกับถุงเพาะเดิม อย่าฝังลึกเกิน

• คลุมโคนด้วยฟาง รักษาความชื้นและอุณหภูมิ

• ใช้จุลินทรีย์ไตรโคเดอร์มา ผสมน้ำราดโคนเพื่อป้องกันโรคราก

24 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร