การเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของมะนาว
การเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของมะนาว (Genetic variation or modification in lime) เป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสายพันธุ์ การกลายพันธุ์ และการตัดต่อพันธุกรรม เพื่อให้ได้มะนาวที่ ทนโรค ติดผลดก ผิวสวย มีเมล็ดน้อย ไม่มีเมล็ด หรือปลูกได้ในสภาพแวดล้อมต่างๆ
การเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของมะนาวแบ่งออกเป็น 3 แนวทางหลัก
1. การเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ (Natural Mutation)
• เกิดจากการกลายพันธุ์เองตามธรรมชาติ เช่น จากเมล็ดบางลูกที่เปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม
• อาจเกิดจาก: การผสมข้ามพันธุ์ในธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม เช่น ความเครียดจากดินหรืออากาศ
• ตัวอย่าง: มะนาวไม่มีเมล็ด บางต้นเกิดจากการกลายพันธุ์แบบ “Apomixis” (ไม่มีการผสม) มะนาวผลใหญ่ ผิวเรียบ อาจเป็นการกลายพันธุ์จากแป้น
2. การปรับปรุงพันธุ์แบบดั้งเดิม (Traditional Breeding)
• เช่น การผสมพันธุ์ระหว่างมะนาวสายพันธุ์ต่าง ๆ เพื่อให้ได้ลูกผสมที่มีลักษณะเด่น
• ตัวอย่างเช่น: การผสม มะนาวแป้น × มะนาวป่า → ให้พันธุ์ใหม่ที่ทนโรค + ติดลูกดี การคัดเลือกสายพันธุ์จากเมล็ดที่มีลักษณะเด่น แล้วขยายพันธุ์ต่อ
3. การตัดต่อพันธุกรรม (Genetic Engineering / GMOs)
• เป็นการนำยีนที่ต้องการใส่เข้าไปในพันธุกรรมของมะนาว เช่น ยีนต้านโรค แบคทีเรีย หรือไวรัส
• ยังไม่แพร่หลายนอกห้องทดลองในไทย เนื่องจากกฎหมายควบคุม GMOs ค่อนข้างเข้มงวด
• ตัวอย่างจากต่างประเทศ: มะนาวต้านทานโรค Huanglongbing (HLB – โรครากแห้งใบเหลือง) มะนาวที่เร่งออกผลเร็ว หรือไม่มีเมล็ดผ่านการปรับยีน
ผลที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมโดยไม่ตั้งใจ (ในสวน)
ในทางปฏิบัติของเกษตรกร บางครั้งเกิดการเปลี่ยนพันธุกรรม “ไม่ตั้งใจ” เช่น:
• เพาะเมล็ดแล้วกลายพันธุ์ → ไม่ควรใช้เมล็ดเพาะปลูกเชิงการค้า
• กิ่งพันธุ์จากต้นกลายพันธุ์ → ลักษณะไม่ตรงพันธุ์เดิม
• เสียบยอดบนตอที่มีพันธุกรรมกลาย → อาจส่งผลต่อลักษณะผลและต้นแม่
ข้อควรปฏิบัติสำหรับเกษตรกร
1. ไม่ควรขยายพันธุ์มะนาวจากเมล็ด ถ้าไม่ใช่การปรับปรุงพันธุ์โดยผู้เชี่ยวชาญ
2. ใช้กิ่งพันธุ์จากต้นแม่พันธุ์ที่มีลักษณะเด่นชัดและไม่กลายพันธุ์
3. หลีกเลี่ยงการปลูกใกล้มะนาวป่าหรือส้มเขียวหวาน (อาจผสมข้ามพันธุ์ได้)
4. หากพบต้นกลายพันธุ์แล้วลักษณะดีเยี่ยม → อาจนำไปคัดสายพันธุ์ใหม่โดยร่วมมือกับสถาบันวิจัย
49 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร