อันตรายที่แฝงมากับน้ำใช้รดมะนาว

อันตรายที่แฝงมากับ น้ำใช้ รดมะนาว อาจดูเป็นเรื่องเล็กในสายตาเกษตรกรหลายคน แต่ในความจริงแล้ว น้ำ ที่ดูใสสะอาดอาจเป็นต้นเหตุของปัญหาเรื้อรังในสวน เช่น เชื้อราในดิน รากไม่เดิน ใบเหลือง ต้นโทรม หรือต้นตายเฉียบพลัน โดยไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง

อันตรายที่พบบ่อยใน "น้ำรดต้นมะนาว"

1. เชื้อโรคจากน้ำ

• เชื้อรา (Phytophthora, Pythium, Fusarium) – มากับน้ำคลอง น้ำบาดาลที่ระบายไม่ดี

• แบคทีเรีย/ไวรัส – แฝงมากับน้ำปนเปื้อน

• ทำให้เกิดโรครากเน่า โคนเน่า ต้นเหี่ยวเฉา ใบร่วง

2. สารเคมีตกค้าง

• จากแหล่งน้ำใกล้พื้นที่การเกษตรอื่น เช่น สารกำจัดวัชพืช ปุ๋ยเคมี หรือยาฆ่าแมลง

• สะสมในดิน ทำลายจุลินทรีย์ดี ดินแน่น รากไม่เดิน

3. ค่าความเค็ม/ค่ากรดด่างไม่เหมาะสม

• น้ำบางแหล่งมีค่า EC สูง (น้ำเค็ม) หรือ pH ต่ำ/สูงเกินไป

• ทำให้ดินเค็ม รากไหม้ ดูดธาตุอาหารไม่ได้

4. โลหะหนักหรือตะกอนเกิน

• จากโรงงาน หรือแหล่งชุมชน เช่น สังกะสี ตะกั่ว เหล็กหนัก

• มีผลสะสมในดิน ทำให้ต้นทรุดเรื้อรัง

5. น้ำร้อนจัด (จากถังหรือท่อกลางแจ้ง)

• หากรดตอนแดดจัด น้ำที่ร้อนจัดสามารถ “ช็อก” ราก

• ทำให้รากหยุดทำงาน ใบเฉา ต้นยืนต้นตาย

วิธีรับมือและป้องกัน

ประเภทน้ำ ประเภทน้ำ
น้ำคลอง/น้ำธรรมชาติ ตักน้ำพักไว้ 1–2 วันก่อนใช้ / ตรวจกลิ่น สี ตะกอน
น้ำบาดาล ตรวจค่าความเค็ม pH EC ทุก 3–6 เดือน
น้ำประปา หลีกเลี่ยงรดในเวลาที่มีคลอรีนสูง (ช่วงเปิดน้ำใหม่)
น้ำปนเปื้อนเคมี ใช้สารกรองพืช (เช่น ถ่าน หรือถังกรองพืช)
ใช้น้ำหมักร่วม ตรวจสภาพการหมักดีหรือเน่า ใช้เจือจางอย่างเหมาะสม

ค่าแนะนำของน้ำรดมะนาว

ค่า ค่าที่เหมาะสม
pH pH
EC (ความเค็ม) < 1.2 mS/cm
อุณหภูมิ 25–30°C
คลอรีนตกค้าง < 1 ppm

14 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร