ธาตุกำมะถันในดิน
ธาตุกำมะถัน (Sulfur) มีบทบาทสำคัญในการดูแลสวนมะนาว ทั้งในด้านการเจริญเติบโตของพืช และการควบคุมศัตรูพืช โดยสามารถแบ่งการใช้ได้เป็น 2 ด้านคือ กำมะถันในด้านโภชนาการพืชและกำมะถันในการป้องกันโรคและแมลง
บทบาทของธาตุกำมะถันในดิน
1. ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีนและเอนไซม์ ของพืช
2. เป็นส่วนประกอบของกรดอะมิโนจำเป็น เช่น cysteine และ methionine
3. ช่วยดูดซับธาตุอาหารหลัก เช่น ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส ให้พืชใช้ได้ดีขึ้น
4. ช่วยควบคุมค่า pH ของดิน (โดยเฉพาะในรูปกำมะถันธาตุ)
การใช้กำมะถันในการป้องกันโรคและแมลง
• ห้ามใช้ พร้อมกับสารเคมีประเภทน้ำมัน หรือในช่วงอากาศร้อนจัด เพราะจะทำให้ใบไหม้
• หลีกเลี่ยงการพ่นกำมะถันเมื่ออุณหภูมิ > 32°C
• พ่นตอนเช้าหรือเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงแดดแรง
รูปแบบของกำมะถันในดิน
1. อินทรีย์รูป (Organic sulfur) – พบมากในซากพืชซากสัตว์ ต้องผ่านกระบวนการย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ก่อนพืชจึงจะใช้ได้
2. ซัลเฟต (Sulfate - SO₄²⁻) – เป็นรูปที่พืชดูดไปใช้ได้ทันที
3. กำมะถันธาตุ (Elemental sulfur – S⁰) – นิยมใส่เพื่อปรับสภาพดิน ลด pH ต้องใช้เวลาเปลี่ยนเป็นซัลเฟตก่อนพืชจะใช้ได้
สัญญาณว่า ดินขาดกำมะถัน
• ใบอ่อนจะ ซีดเหลือง ก่อนใบแก่ (ต่างจากขาดไนโตรเจน)
• ต้นแคระแกร็น โตช้า
• อาจเกิดการสะสมไนโตรเจนในพืชมากเกินไป เพราะกำมะถันมีบทบาทในการจับไนโตรเจนให้สมดุล
วิธีเพิ่มกำมะถันในดิน
1. ปุ๋ยที่มี S เช่น
• แอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0 + S)
• โพแทสเซียมซัลเฟต
2. กำมะถันธาตุ (S⁰)
• นิยมใช้ในดินด่างหรือดินที่ pH สูง
• ช่วยปรับ pH และเพิ่มกำมะถันในระยะยาว
3. ยิปซัม (Gypsum – แคลเซียมซัลเฟต)
• ปรับโครงสร้างดิน บำรุงราก และเพิ่ม S แบบค่อยเป็นค่อยไป
คำแนะนำสำหรับสวนมะนาว
• หากดินเป็นดินทรายหรือดินที่มีอินทรียวัตถุต่ำ ควรเติมกำมะถันหรือปุ๋ยที่มี S เป็นประจำ
• ตรวจวิเคราะห์ดินก่อน เพื่อประเมินระดับธาตุกำมะถัน
• หมั่นเติมปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก เพื่อเพิ่ม S จากอินทรียวัตถุธรรมชาติ
20 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร