ธาตุกำมะถันในดิน

ธาตุกำมะถัน (Sulfur) มีบทบาทสำคัญในการดูแลสวนมะนาว ทั้งในด้านการเจริญเติบโตของพืช และการควบคุมศัตรูพืช โดยสามารถแบ่งการใช้ได้เป็น 2 ด้านคือ กำมะถันในด้านโภชนาการพืชและกำมะถันในการป้องกันโรคและแมลง

บทบาทของธาตุกำมะถันในดิน

1. ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีนและเอนไซม์ ของพืช

2. เป็นส่วนประกอบของกรดอะมิโนจำเป็น เช่น cysteine และ methionine

3. ช่วยดูดซับธาตุอาหารหลัก เช่น ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส ให้พืชใช้ได้ดีขึ้น

4. ช่วยควบคุมค่า pH ของดิน (โดยเฉพาะในรูปกำมะถันธาตุ)

รูปแบบของกำมะถันในดิน

1. อินทรีย์รูป (Organic sulfur) – พบมากในซากพืชซากสัตว์ ต้องผ่านกระบวนการย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ก่อนพืชจึงจะใช้ได้

2. ซัลเฟต (Sulfate - SO₄²⁻) – เป็นรูปที่พืชดูดไปใช้ได้ทันที

3. กำมะถันธาตุ (Elemental sulfur – S⁰) – นิยมใส่เพื่อปรับสภาพดิน ลด pH ต้องใช้เวลาเปลี่ยนเป็นซัลเฟตก่อนพืชจะใช้ได้

สัญญาณว่า ดินขาดกำมะถัน

• ใบอ่อนจะ ซีดเหลือง ก่อนใบแก่ (ต่างจากขาดไนโตรเจน)

• ต้นแคระแกร็น โตช้า

• อาจเกิดการสะสมไนโตรเจนในพืชมากเกินไป เพราะกำมะถันมีบทบาทในการจับไนโตรเจนให้สมดุล

วิธีเพิ่มกำมะถันในดิน

1. ปุ๋ยที่มี S เช่น

• แอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0 + S)

• โพแทสเซียมซัลเฟต

2. กำมะถันธาตุ (S⁰)

• นิยมใช้ในดินด่างหรือดินที่ pH สูง

• ช่วยปรับ pH และเพิ่มกำมะถันในระยะยาว

3. ยิปซัม (Gypsum – แคลเซียมซัลเฟต)

• ปรับโครงสร้างดิน บำรุงราก และเพิ่ม S แบบค่อยเป็นค่อยไป

คำแนะนำสำหรับสวนมะนาว

• หากดินเป็นดินทรายหรือดินที่มีอินทรียวัตถุต่ำ ควรเติมกำมะถันหรือปุ๋ยที่มี S เป็นประจำ

• ตรวจวิเคราะห์ดินก่อน เพื่อประเมินระดับธาตุกำมะถัน

• หมั่นเติมปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก เพื่อเพิ่ม S จากอินทรียวัตถุธรรมชาติ

20 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร