การใช้ คอปเปอร์ (Copper) เพื่อป้องกันโรคแคงเกอร์ในฤดูหนาว ถือเป็นวิธีที่ชาวสวนมะนาวมืออาชีพนิยมใช้ เพราะในช่วงฤดูหนาว มักมี หมอก น้ำค้าง และอุณหภูมิต่ำ ซึ่งเป็นเงื่อนไขให้เชื้อแบคทีเรีย Xanthomonas citri ที่ก่อโรคแคงเกอร์เริ่มฟักตัวและแพร่ระบาดได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงเช้าที่ใบเปียกชื้น

หลักการใช้คอปเปอร์ในฤดูหนาว

1. คอปเปอร์คืออะไร

คอปเปอร์เป็นสารกลุ่มทองแดง (เช่น Copper hydroxide, Copper oxychloride, Copper sulfate ฯลฯ) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ช่วยเคลือบผิวใบ ลำต้น และผล เพื่อ ป้องกันการเข้าทำลายของเชื้อแคงเกอร์

วิธีการใช้คอปเปอร์ช่วงฤดูหนาว

1. พ่นช่วงใบแห้ง ไม่มีฝนหรือน้ำค้าง

ควรพ่นในช่วงสาย ๆ (ประมาณ 9.00-10.00 น.) หลีกเลี่ยงช่วงเช้าที่ใบเปียกน้ำค้าง เพราะน้ำจะเจือจางสาร ทำให้ประสิทธิภาพลดลง

2. พ่นป้องกันเป็นระยะ ไม่รอให้เกิดโรคก่อน

ช่วงอากาศเย็น (พ.ย.-ก.พ.) ควรพ่นทุก 10-15 วัน หากมีฝนตกหลังพ่น ให้ พ่นซ้ำหลังฝนหยุดภายใน 1-2 วัน เน้นพ่นเคลือบใบอ่อนและผลอ่อนที่เพิ่งแตกใหม่

3. อัตราการใช้ทั่วไป

คอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ หรือ คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ 50–80 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ผสมสารจับใบเล็กน้อยเพื่อให้เกาะผิวใบดีขึ้น ห้ามผสมร่วมกับสารที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น กำมะถันหรือฮิวมิค

4. ระวังผลกระทบต่อยอดอ่อน

ถ้ามีใบอ่อนหรือยอดอ่อนมาก ควรใช้ในอัตราต่ำสุด เพราะคอปเปอร์อาจทำให้เกิด อาการไหม้ใบอ่อน (Phytotoxicity) ในระยะมะนาวกำลังติดดอกหรือติดผลอ่อน ให้ลดปริมาณเหลือครึ่งหนึ่ง

เคล็ดลับจากชาวสวนมืออาชีพ

• พ่น ก่อนหมอกลงหนัก หรือ ก่อนอุณหภูมิลดต่ำ เพื่อเคลือบใบไว้ล่วงหน้า

• หากมีการตัดแต่งกิ่ง ควรพ่นคอปเปอร์ทันทีหลังตัด เพื่อป้องกันเชื้อเข้าทางแผล

• ใช้ร่วมกับจุลินทรีย์ปฏิปักษ์ (เช่น Bacillus subtilis) ได้ แต่ควรแยกพ่นคนละวัน

แนะนำ

“โรคแคงเกอร์...ป้องกันไว้ดีกว่ารักษา เพราะเมื่อใบเป็นแผลแล้ว ต่อให้คอปเปอร์ดีแค่ไหน ก็แค่หยุดมันได้ แต่รักษาไม่ได้”

5.8k @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร