ปรับสมดุลดิน

การปรับสมดุลดิน คือกระบวนการทำให้ดินมีความเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช ทั้งในด้านโครงสร้าง เคมี และชีวภาพ เพื่อให้พืชดูดซึมอาหารได้ดี ไม่สะสมสารพิษ และมีจุลินทรีย์ดีคอยช่วยพยุงระบบรากให้แข็งแรง

ดินสมดุลคืออะไร?

ดินที่เหมาะสมควรมีลักษณะ:

• ร่วนซุย อุ้มน้ำแต่ไม่แฉะ

• มี pH 5.5–7.0 (เหมาะกับมะนาวและพืชทั่วไป)

• มีจุลินทรีย์ดีอาศัยอยู่

• มีธาตุอาหารครบถ้วน ทั้งหลัก (NPK) และรอง/เสริม (Ca, Mg, S, Zn ฯลฯ)

ปัญหาดินไม่สมดุลที่พบบ่อย

ปัญหา ผลที่เกิดกับพืช
ดินแน่น แข็งทึบ รากไม่เดิน น้ำไม่ซึม แฉะง่าย
ดินเปรี้ยวจัด (pH < 5.5) พืชไม่กินปุ๋ย ใบเหลือง โตช้า
ดินด่างจัด (pH > 7.5) ธาตุเหล็ก-สังกะสีถูกตรึง ใบซีด
ดินเค็ม รากไหม้ ใบไหม้ ใบไหม้จากขอบ
ขาดอินทรียวัตถุ ดินตาย แข็ง ไม่มีจุลินทรีย์
จุลินทรีย์เสียสะสม โรคพืชรากเน่า เหี่ยว ตายพราย

แนวทางปรับสมดุลดิน

1. เติมอินทรียวัตถุ

• เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก มูลสัตว์แห้ง ใบไม้หมัก แกลบดำ

• ช่วยให้ดินร่วนซุยและเพิ่มจุลินทรีย์ดี

2. ใช้ชีวภัณฑ์/จุลินทรีย์

• เช่น ไตรโคเดอร์มา, บาซิลลัส, บิวเวอเรีย, น้ำหมักชีวภาพ

• ควบคุมเชื้อราร้าย ย่อยอินทรียวัตถุ เร่งราก

3. ปรับ pH ดิน

• ดินเปรี้ยว → ใส่ปูนโดโลไมต์หรือปูนขาว 200–500 กก./ไร่ (แล้วแต่สภาพดิน)

• ดินด่าง → เติมอินทรียวัตถุ เปลือกถั่ว น้ำหมัก EM ช่วยลดค่าด่างได้เล็กน้อย

4. ใช้พืชบำรุงดิน (ปอเทือง, ถั่วพร้า, ถั่วเขียว ฯลฯ)

• ไถกลบหลังออกดอก จะเพิ่มอินทรียวัตถุและไนโตรเจนในดิน

5. พักแปลง/เว้นรอบปลูก

• ปล่อยให้แปลงได้ระบายออกซิเจน สลายพิษ

• ฉีดน้ำหมักชีวภาพลงดินช่วงพัก เพื่อฟื้นจุลินทรีย์

สูตรน้ำหมักปรับสมดุลดิน (ใช้ง่าย)

วัตถุดิบ: น้ำหมักชีวภาพ (เช่น น้ำหมักหน่อไม้, กล้วย, ปลา) 200 ซีซี + น้ำ 20 ลิตร

วิธีใช้: ราดโคนต้น/แปลง ทุก 7–15 วัน

ประโยชน์: ช่วยย่อยปุ๋ยคอก, เพิ่มจุลินทรีย์, ฟื้นโครงสร้างดิน

8 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร