คอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ห้ามผสมกับธาตุอาหารรองตัวไหน

คอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ (Copper Hydroxide) หรือชื่อการค้าเช่น ฟังกูราน (Funguran) เป็นสารคอปเปอร์ชนิดละเอียดที่นิยมใช้ป้องกันโรคแคงเกอร์ในมะนาว เพราะเกาะผิวใบดี ทนฝน และไม่เป็นพิษร้ายแรงต่อมะนาวเมื่อใช้ถูกอัตรา

อย่างไรก็ตาม คอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ไม่สามารถผสมรวมกับธาตุอาหารรองบางชนิดได้ เพราะจะเกิด “ปฏิกิริยาเคมี” ที่ทำให้สารออกฤทธิ์เสียสภาพทันที ทั้งยับยั้งฤทธิ์ของคอปเปอร์เอง และทำให้ธาตุอาหารรองตกตะกอน ใช้แล้วไม่ได้ผล

ธาตุอาหารรองที่ “ห้ามผสม” กับคอปเปอร์ไฮดรอกไซด์

ธาตุอาหารรอง/จุลธาตุ สาเหตุที่ห้ามผสม ผลเสียที่เกิดขึ้น
เหล็ก (Fe) เหล็กโดยเฉพาะในรูปคีเลต (Fe-EDTA) จะทำ
ปฏิกิริยากับ Cu²⁺ กลายเป็นสารตกตะกอน
ยาและปุ๋ยแยกชั้น เหล็กและคอปเปอร์หมด
ฤทธิ์ทั้งคู่
แมงกานีส (Mn) คอปเปอร์และแมงกานีสมีศักย์ออกซิเดชันใกล้
กัน ทำให้เกิดการแย่งอิเล็กตรอน
ทำให้สารคอปเปอร์สลายเร็วขึ้น พืชดูดซึมไม่ได้
สังกะสี (Zn) Zn²⁺ จะรวมตัวกับ Cu(OH)₂ กลายเป็นเกลือ
โลหะผสม (Copper–Zinc complex)
เกิดตะกอนขาวขุ่น อุดตันหัวพ่น ยาไม่ออกฤทธิ์
แมกนีเซียม (Mg) มีฤทธิ์ด่างอ่อน ทำให้ pH น้ำสูงขึ้น
คอปเปอร์ตกตะกอน
ตกตะกอนในถังพ่น ยาไม่ละลายทั่วถึง
แคลเซียม (Ca) แคลเซียมจะจับกับไฮดรอกไซด์ ทำให้
คอปเปอร์ตกผลึก
พ่นแล้วเห็นผงฟ้าเกาะใบเป็นจุดหนาแน่น ใบไหม้
ได้ง่าย
โบรอน (B) เมื่ออยู่ในสภาพด่างจาก Cu(OH)₂ โบรอนจะ
กลายเป็นสารโบรอนิกที่ไม่เสถียร
ธาตุโบรอนสลายตัวเร็ว สูญเสียประโยชน์
ซิลิกอน (Si) มีค่า pH สูง ทำให้คอปเปอร์แตกตัวเป็น
ออกไซด์
ยาเสื่อมฤทธิ์ก่อนพ่น เสียของทั้งหมด

เหตุผลทางเคมีโดยสรุป

คอปเปอร์ไฮดรอกไซด์มีค่า pH ค่อนข้างด่าง (7.5-9) เมื่อผสมกับสารที่มีโลหะ หรือสารที่มีฤทธิ์เป็นกรด/ด่างจัด จะเกิด การแลกเปลี่ยนไอออน (Ion exchange) ทำให้ตัวยาแตกตัวหรือจับกันเป็นตะกอน

ธาตุรองส่วนใหญ่มีประจุบวก (Fe²⁺, Mn²⁺, Zn²⁺, Ca²⁺ ฯลฯ) เมื่อเจอ Cu²⁺ จะเกิด การแย่งจับกับไฮดรอกไซด์ (OH⁻) เกิดเกลือโลหะที่ไม่ละลายน้ำ สารพ่นไม่ออกฤทธิ์ และอุดตันหัวพ่น

ตัวอย่างสถานการณ์จริงในสวนมะนาว

หลายสวนมัก “รวมสูตร” พ่นคอปเปอร์กับปุ๋ยทางใบหรือธาตุรองในถังเดียว เพราะคิดว่าช่วยประหยัดเวลา แต่ผลที่เกิดขึ้นคือ

• น้ำยาในถังพ่นขุ่นขาว

• พ่นแล้วเห็นคราบฟ้าหนาๆ บนใบ

• ใบมะนาวไหม้ หรือร่วงใน 2-3 วัน

• โรคแคงเกอร์ไม่ลดลง เพราะคอปเปอร์เสียฤทธิ์ตั้งแต่ในถัง

แนวทางการใช้ที่ถูกต้อง

1. พ่นคอปเปอร์เดี่ยว ๆ เท่านั้น โดยไม่ผสมปุ๋ยหรือฮอร์โมน

2. เว้นระยะ 5-7 วัน ก่อนหรือหลังการพ่นธาตุรอง

3. ใช้น้ำที่มี pH เป็นกลาง (6.5-7.0) ไม่ควรใช้น้ำด่างหรือกรดจัด

4. หากต้องการพ่นธาตุรอง ให้ทำหลังจากคอปเปอร์เคลือบผิวใบแห้งสนิทแล้ว

สรุปแบบมืออาชีพ

“คอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ คือโล่ป้องกันโรค ไม่ใช่ปุ๋ยเสริม” ห้ามผสมกับธาตุรองหรือสารที่มีโลหะ เพราะจะทำให้ทั้งยาและปุ๋ยหมดฤทธิ์ไปพร้อมกัน มืออาชีพแยกพ่น แยกเวลา เพื่อให้ได้ทั้ง ‘ใบสะอาด’ และ ‘ต้นสมบูรณ์’ อย่างแท้จริง

1.9k @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร