โรคราน้ำค้างในมะนาว เป็นโรคที่หลายคนมักเข้าใจว่าเจอแค่ในผัก แต่จริง ๆ ก็เกิดกับสกุลส้มได้ โดยเฉพาะในช่วงฝนตกชื้นจัด อากาศเย็นสลับร้อนครับ

สาเหตุ

• เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม Oomycetes (เชื้อราเทียม) เช่น Phytophthora และ Peronospora

• แพร่ระบาดมากเมื่อมี ความชื้นสูง > 90%, อากาศเย็น, และใบเปียกชื้นต่อเนื่อง

อาการบนมะนาว

1. ใบ

• เริ่มเป็นจุดเหลืองซีดด้านบน

• ด้านล่างใบมีผงสีขาว-เทา (เส้นใยเชื้อรา) คล้ายฝุ่น

• ใบเหลืองทั้งใบและร่วงถ้าอาการรุนแรง

2. ดอกและผลอ่อน

• ดอกเน่า ร่วงก่อนบาน

• ผลอ่อนมีแผลช้ำคล้ายน้ำร้อนลวก หล่นก่อนกำหนด

3. กิ่งอ่อน

• อาจเน่าและแห้งตาย ถ้าเชื้อเข้ารุนแรง

เงื่อนไขที่ทำให้โรคระบาด

• ฝนตกต่อเนื่อง น้ำค้างจัด ใบไม่แห้ง

• พุ่มทึบ อากาศไม่ถ่ายเท

• รดน้ำกระทบใบตอนเย็น ความชื้นสะสม

การป้องกันและจัดการ

1. จัดการสภาพแวดล้อม

• ตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง แสงแดดเข้าถึง

• หลีกเลี่ยงรดน้ำกระทบใบตอนเย็น

2. ดูแลพื้นดิน

• ไม่ให้มีน้ำขัง เชื้อราจะลดการแพร่กระจาย

• คลุมดินด้วยฟาง/หญ้าแห้ง ลดการดีดของสปอร์เชื้อรา

3. ชีวภัณฑ์

• พ่นเชื้อ ไตรโคเดอร์มา ที่โคนต้นเพื่อคุมเชื้อราสาเหตุโรค

4. สารเคมี (ถ้าจำเป็น)

• กลุ่มแมนโคเซบ (Mancozeb), เมทาแลกซิล (Metalaxyl), ฟอสไฟต์ (Phosphite)

• พ่นช่วงเริ่มพบอาการ และหยุดก่อนเก็บผลผลิตตามคำแนะนำบนฉลาก

แนวคิดสำคัญ

• ราน้ำค้างชอบ ความชื้น + ใบชื้นนาน ถ้าคุม 2 อย่างนี้ได้ โรคแทบไม่เกิด

• ถ้าติดแล้ว ต้อง ตัดแต่ง + ลดความชื้น + ใช้ชีวภัณฑ์หรือสารป้องกันกำจัดเชื้อรา ควบคู่

6 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร